กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--ปตท.สผ.
บริษัท พีทีทีอีพี เอชเค โฮลดิ้ง จำกัด (PTTEP HK Holding Limited) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 39 ในบริษัท อพิโก แอลแอลซี (APICO LLC) จากบริษัทโคสท์ทอล เอ็นเนอร์จี (โคราช) จำกัด(Coastal Energy Company (Khorat) Limited) ด้วยมูลค่ารวมประมาณ 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการถือหุ้นในอพิโกเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 72.8
ปัจจุบัน อพิโกมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 35 ในโครงการสินภูฮ่อม ซึ่งมี ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ ด้วยสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 55 และบริษัท เอ็กซอนโมบิล เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราช อิงค์ ถือสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 10 ปตท.สผ. คาดว่าการซื้อหุ้นครั้งนี้ จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 และจะทำให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการสินภูฮ่อมทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมเป็นร้อยละ 80.48 นอกจากนี้ อพิโกยังมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 100 ในแปลงแอล 15/43 และแปลงแอล 27/43 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยด้วย
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า "การเข้าซื้อหุ้นในอพิโกเพิ่มเติมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างฐานการเติบโต ผ่านการขยายการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัท และยังช่วยสนับสนุนการพัฒนาแหล่งก๊าซฯ สินภูฮ่อม เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"
การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ เป็นการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอพิโก หลังจากที่ ปตท.สผ. ได้เข้าซื้อหุ้นในอพิโกจากกลุ่มบริษัท เทเท็ก ไทยแลนด์ (Tatex Thailand) เสร็จไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
โครงการสินภูฮ่อม ครอบคลุมแปลงอียู1 (EU1) และอี5เอ็น (E5N) ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และขอนแก่น โดยมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติในครึ่งปีแรกของปี 2562 เฉลี่ยประมาณ 88 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (14,487 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน) และปริมาณการขายคอนเดนเสทเฉลี่ยประมาณ 289 บาร์เรลต่อวัน ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากแหล่งดังกล่าวถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักสำหรับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ได้รับการบรรจุในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทั้งนี้สัญญาสัมปทานของโครงการสินภูฮ่อมได้รับการต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมออกไปอีก 10 ปี โดยได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562