กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนประเทศไทย
สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวการเตรียมจัดงานประชุมใหญ่ 2 งานคู่ขนานไปกับการประชุมผู้นำอาเซียน หรือ ASEAN Summit 2019 ภายใต้แนวคิด "Empowering ASEAN 4.0" คืองาน "ASEAN Business and Investment Summit 2019 " หรือ ABIS 2019 และงาน ASEAN Business Awards 2019
นายอรินทร์ จิรา ประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจอาเซียน (ASEAN Business Advisory Council : ASEAN-BAC) และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในงานแถลงข่าวว่า งาน ABIS 2019 ครั้งนี้ จะเป็นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำธุรกิจชั้นนำ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลง โดยเน้นย้ำว่าภาคเอกชนมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับทราบมุมมองและวิสัยทัศน์ของผู้นำธุรกิจชั้นนำ พร้อมยกระดับความร่วมมือและสร้างความเข็มแข็งให้เป็นที่ประจักษ์ว่าอาเซียนเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุน
นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า งาน ABIS ในปีนี้ โดยไทยในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Empowering ASEAN 4.0" ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักที่ ASEAN-BAC สนับสนุนและผลักดันการดำเนินงานในปี 2562 โดยจะมุ่งเน้น 4 เสาหลัก คือ
Digital Infrastructure (พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยี)
Digital Connectivity (สร้างความเชื่อมโยงทางด้านดิจิทัล เพื่อรองรับการค้า การลงทุนในอาเซียน)
Human Empowerment and Development (พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดความสามารถใหม่และลดปัญหาการว่างงานในอาเซียน)
MSME (ผลักดันให้ MSME เข้าถึงนวัตกรรมและเงินทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันให้แก่ MSME
โดยในงานได้เชิญผู้นำของบริษัทชั้นนำของอาเซียน ได้แก่ แอร์เอเชีย แกร๊บ หัวเว่ย โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น สิงคโปร์เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ เอสซีจี สิงห์คอร์ปอเรชั่น ธนาคารกรุงเทพ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และกลุ่มบริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ธุรกิจแห่งอาเซียน
นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) รวมถึงผู้นำประเทศของหลายประเทศที่ตอบรับร่วมงาน พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ ทั้งผู้นำของอาเซียนและผู้นำประเทศอื่นเช่น แคนาดา เป็นต้น
โดยในงานจะมีหัวข้อสัมมนาสำคัญ ประกอบด้วย 6 หัวข้อ ดังนี้
การส่งเสริมอาเซียนก้าวสู่ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก (Global Value Chain)
การเสริมสร้างเศรษฐกิจอาเซียนสู่ความยั่งยืน โดยอาศัยแนวคิด "เศรษฐกิจหมุนเวียน" (Circular Economy)
การสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ที่เป็น MSME ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการเงิน (Access to finance)
การปรับเปลี่ยนธุรกิจในอาเซียนเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการเสริมความเชื่อมโยงด้านดิจิทัล (Digital Transformation)
การเสริมสร้างสมรรถนะของทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดความสามารถใหม่และลดปัญหาการว่างงาน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
การเสริมสร้างเครือข่ายความเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบการ MSME ในอาเซียน (AMEN)
ขณะที่นายไพรัช บูรพชัยศรี รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการ ASEAN Business Awards (ABA) 2019 เปิดเผยว่า การจัดงาน ABA 2019 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจ มุ่งยกย่องเชิดชูบริษัทอาเซียนที่มีศักยภาพและมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ พร้อมไปกับการส่งเสริม SMEs ในอาเซียนที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำและมีศักยภาพในการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งเถือเป็นกลไกในสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยจะมอบรางวัล "the Most Admired ASEAN Enterprise" ให้แก่บริษัทที่ถือกำเนิดในอาเซียน (home-grown ASEAN companies) และบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (ASEAN SMEs) ที่มีศักยภาพในการก้าวไปสู่การค้าในระดับสากลและเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจของอาเซียนให้เจริญเติบโต ทั้งนี้ รางวัล ABA 2019 แบ่งออกเป็นรางวัลที่เปิดรับสมัครเข้าประกวด (9 ประเภทรางวัล) และรางวัลเชิดชูเกียรติ (2 ประเภทรางวัล) รวม 11 ประเภทรางวัล ประกอบด้วย
พร้อมทั้งมุ่งหวังว่ารางวัลดังกล่าวจะเป็น Best Practice ที่จะส่งเสริมบริษัทเอกชนอื่นได้เรียนรู้ การดำเนินธุรกิจ และสามารถขยายการดำเนินธุรกิจสู่ประเทศในอาเซียน ซึ่งหากบริษัทเอกชนรวม โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของอาเซียนมีความเข็มแข็ง ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกัน จะช่วยส่งเสริมความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
สำหรับงาน ASEAN Business and Investment Summit 2019 และงาน ASEAN Business Awards (ABA) 2019 จะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานโดยสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2562 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ในระหว่างการจัดงาน ABIS และABA 2019 จะมีการจัดกิจกรรมคู่ขนาน อาทิ งานแสดงสินค้า งานจับคู่ทางธุรกิจ งานประชุมหารือกับภาคเอกชนและภาคธุรกิจ และงานส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจและเสริมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ซึ่งการจัดกิจกรรมคู่ขนานดังกล่าวจะเป็นการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ การส่งเสริมการขยายตลาดของผู้ประกอบการและการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานจะมีค่าลงทะเบียน ดังนี้ 1) ท่านที่เข้าร่วมทั้ง 2 งาน ABIS และ ABA ราคา 500 USD, Early Bird ลดเหลือเพียง 300 USD เท่านั้น 2) ท่านที่เข้าร่วม 1 งาน ราคา 300 USD, Early Bird ลดเหลือเพียง 200 USD) โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.aseanbac2019.org