กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
- กระบวนการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้มากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงทุกขั้นตอนในวงจรการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์
- การสนับสนุนของบุคลากรมืออาชีพที่มีประสบการณ์ พร้อมเครื่องมือดิจิทัลแบบเน็กซ์-เจน ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากคนทำงาน อีกทั้งช่วยเพิ่มอัพไทม์สูงสุด
- การบริหารจัดการวงจรการทำงานที่สมบูรณ์ ครอบคลุมทั้งระบบไอทีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มอบประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการวางแผน ที่ช่วยประหยัดทั้งต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น ขยายสายผลิตภัณฑ์ โซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยการแนะนำ Critical Facility Operations ในเวอร์ชันดิจิทัลที่ยกระดับความสามารถเหนือชั้น สำหรับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ รวมถึงผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์รายใหญ่ทั้งหลาย การนำเสนอความสามารถใหม่เหล่านี้ ทำให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กลายเป็นผู้นำด้านการดำเนินการดาต้าเซ็นเตอร์ในระบบดิจิทัล รวมถึงเป็นแหล่งรวมสำหรับบริการ Critical Facility Operation ทั้งหมดตั้งแต่ในส่วนของไอทีไปจนการสนับสนุนระบบโครงสร้างในอาคาร
การบริหารจัดการทรัพยากรอาคารแบบ 24x7 ให้กระบวนการที่ขับเคลื่อนการทำงานด้วยซอฟต์แวร์แนวทางการทำงานแบบใหม่ของ Critical Facility Operations ในระบบดิจิทัล จะรวมกระบวนการที่ขับเคลื่อนการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ พร้อมการจัดการทรัพยากรอาคารแบบออนไซต์ตลอดเวลา 24x7 และการสนับสนุนจากระยะไกล ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับมีดังต่อไปนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน การติดตั้งโซลูชันในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงของลูกค้า ให้ผลลัพธ์ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้มากถึง 15 เปอร์เซ็นต์
- ลดความเสี่ยงและให้อัพไทม์สูงสุด ด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ที่จะคอยดำเนินการและดูแลรักษาดาต้าเซ็นเตอร์ โดยใช้เครื่องมือในระบบดิจิทัลที่ทรงพลังเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการต่างดำเนินไปตามมาตรฐาน อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดของคน
- วางแผนไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเวิร์กโฟลว์ที่ใช้วิธีลงมือทำจริง โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์กลางความเชี่ยวชาญ เพื่อบริหารจัดการวงจรการทำงานในส่วนสินทรัพย์ไอทีได้อย่างสมบูรณ์
การดำเนินการด้วยระบบดิจิทัลช่วยลดความเสี่ยง"ที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เราเชื่อว่าการเปลี่ยนการดำเนินการด้านดาต้าเซ็นเตอร์มาสู่ระบบดิจิทัล จะส่งผลให้ความเสี่ยงจากความผิดพลาดของคนลดลง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความโปร่งใสในดาต้าเซ็นเตอร์ที่เราดำเนินการให้กับลูกค้าในทั่วโลก" แอนโธนี เดอสปิริโต รองประธาน/ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายปฏิบัติการดาต้าเซ็นเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว "ในฐานะที่เป็นผู้จำหน่ายรายเดียวที่ดูแลการดำเนินงานสำคัญทั้งหมดของดาต้าเซ็นเตอร์ได้ทั้งในส่วน white space และ gray space ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยย้ายการทำงานแบบไซโลออกไป อันเป็นสาเหตุให้เกิดความซ้ำซ้อนระหว่างทรัพยากรอาคารและพนักงานไอที ทำให้ช่วยลดปัญหาเรื่องการดูแลและลดความเสี่ยงได้"
China Unicom เป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่ให้บริการคลาวด์เพื่อตอบสนองความต้องการขนาดใหญ่ China Unicom เลือกเอาท์ซอร์สงานบริการออนไซต์ในส่วนการดำเนินการด้านพลังงานหลัก สำหรับไซต์งานสองแห่ง โดยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเป็นผู้ดูแล ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญของชไนเดอร์ฯ กว่า 100 คนที่ดูแลจัดการดาต้าเซ็นเตอร์แบบไฮเปอร์สเกลทั้งสองแห่งให้ China Unicom
"ความก้าวหน้าของชไนเดอร์ อิเล็คทริค และโซลูชัน Critical Facility Operations ที่ปรับให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าได้ ช่วยให้เราปรับปรุงได้มากทั้งในเรื่องการดำเนินการที่น่าเชื่อถือ การบำรุงรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้าได้ รวมถึงการควบคุมความเสี่ยง ทำให้ทรัพยากรดาต้าเซ็นเตอร์สามารถทำงานต่อเนื่องด้วยอัพไทม์ 100 เปอร์เซ็นต์" กัง นาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายปฏิบัติการและการบริการของ China Unicom กล่าว "นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิผล ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์"
การนำเสนอที่ตรงต่อความต้องการใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งความต้องการด้านธุรกิจและไซต์งานเฉพาะCritical Facility Operations สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นการนำเสนอที่ปรับให้ตรงต่อความต้องการลูกค้าได้ คิดราคาตามขนาดของอาคาร จำนวนสินทรัพย์ที่ใช้ และเลือกบริการด้านการดำเนินงานได้ตามความต้องการ การนำเสนอดังกล่าวรวมเรื่องต่อไปนี้
- การดำเนินการและบำรุงรักษาระบบโครงสร้างแบบ 24x7 ทั้งการเตรียมความพร้อมและการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- การบริหารจัดการผู้จำหน่ายและการเฝ้าระวังความผิดพลาด
- การมอนิเตอร์และตรวจเช็ครายวัน การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลง (change management) และการปรับให้ระบบทำงานได้ต่อเนื่องเต็มประสิทธิภาพ
- การวางวิศวกรรมระบบโครงสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อการวางแผนความสามารถในการทำงานของฮาร์ดแวร์ในเชิงกลยุทธ์ การทำให้ระบบความเย็นและพลังงานทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมอนิเตอร์การดำเนินงานในทุกวัน
- แร็คและสแต็ค เพื่อบริการด้านการบริหารจัดการวงจรการทำงานของทรัพยากรไอทีทั้งหมดได้ตามมาตรฐาน รวมถึงการติดตั้ง เคลื่อนย้าย เพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนและเลิกใช้สินทรัพย์
- ให้ความช่วยเหลือได้อย่างฉลาดทั้งการสนับสนุนด้านเทคนิคแบบออนไซต์ การระบุหาความผิดพลาดพร้อมแก้ไข และการบำรุงรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้า
Critical Facility Operations พร้อมจำหน่ายทั่วโลก โซลูชันที่ให้ความสามารถในระบบดิจิทัลพร้อมให้บริการแล้ววันนี้ ในทวีปอเมริกาเหนือ และจะพร้อมให้บริการเร็วๆ นี้ ในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และจีน ตามด้วยประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอื่นๆ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว เข้าไปดูได้ที่ www.se.com/cfo