กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์
เวียตเจ็ท เปิดเผยรายงานผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2562 ระบุรายรับจากธุรกิจขนส่งทางอากาศที่ 20,148 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรก่อนหักภาษีที่ 1,563 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรายรับรวมของบริษัทเมื่อนับรวมผลประกอบการธุรกิจจากการขายเครื่องบินแล้วจะมากกว่า 26.3 ล้านล้านดอง ซึ่งเพิ่มขึ้น 24% และมีกำไรก่อนหักภาษีที่ 2.4 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินจำนวน 68,821 เที่ยว คิดเป็น 45% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดของสายการบินทุกแห่งของเวียดนาม ซึ่งทำให้เวียตเจ็ทได้บริการผู้โดยสารรวมทุกเส้นทางกว่า 13.5 ล้านคน โดยเวียตเจ็ทยังคงรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจการบินภายในประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาด 44% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์รั้งอันดับ 2 ที่ส่วนแบ่ง 34%
เวียตเจ็ทยังสามารถสร้างการเติบโตได้ในตลาดการบินต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมีอัตราผลกำไรที่สูงจากรายรับของบริการเสริมและต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่ำ การเติบโตในตลาดการบินต่างประเทศยิ่งทำให้เวียตเจ็ทมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงขึ้นเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้โดยสารบนเส้นทางระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทเพิ่มขึ้น 35% หรือราว 4 ล้านคน โดยเวียตเจ็ทมีรายรับจากบริการขนส่งระหว่างประเทศมากกว่าภายในประเทศ โดยคิดเป็น 54% ของรายรับบริการขนส่งทางอากาศรวมทั้งหมดของบริษัท ส่วนรายรับจากบริการเสริมและคลังสินค้ามีมูลค่ามากกว่า 5.5 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้นจาก 21% ในปีที่ผ่านมาเป็น 27% ในปีนี้ สืบเนื่องจากการเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศของเวียตเจ็ท
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ 9 เส้นทาง สู่ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน และเส้นทางบินภายในประเทศอีก 3 เส้นทาง ซึ่งทำให้ในปัจจุบัน เวียตเจ็ทมีเส้นทางบินทั่วโลกทั้งหมด 120 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางระหว่างประเทศ 78 เส้นทาง และเส้นทางภายในประเทศ 42 เส้นทาง เครือข่ายการบินของเวียตเจ็ทครอบคลุมทั้งเวียดนาม ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย กัมพูชา จีน และอื่น ๆ นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังมีการดำเนินงานในสนามบินอีกหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงดูไบและโดฮา
ในช่วงเวลานี้ รายรับต่อที่นั่งต่อระยะทาง (RPK) ของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 16.3 พันล้าน เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงถึง 88% ความน่าเชื่อถือด้านเทคนิคที่ 99.64% และความตรงเวลาของเที่ยวบิน (On-time Performance : OTP) ที่ 81.5%
หุ้นของเวียตเจ็ทมีมูลค่า 15,622 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนทรัพย์สินรวมมีมูลค่าราว 44.5 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นทรัพย์สินระยะยาวถึง 21.9 ล้านล้านดอง คิดเป็น 49% ของทรัพย์สินทั้งหมด โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) อยู่ที่ 0.50 ซึ่งถือว่าดีขึ้นจากอัตรา 0.64 ของปีที่ผ่านมา การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลงมติให้จ่ายปันผลของปี พ.ศ. 2561 ที่อัตรา 55% ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้ที่ 50% ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีซึ่งจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เวียตเจ็ทยังได้นำเสนอแอปพลิเคชั่น Vietjet Air เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งรวมถึงบริการซื้อบัตรโดยสารระบบออนไลน์ที่รวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน และโปรโมชั่นจองบัตรโดยสารราคา 0 บาททุกวันศุกร์และฟรีค่าธรรมเนียม ฯลฯ
สถาบันการบินเวียตเจ็ทที่ Ho Chi Minh City High-Tech Park ในกรุงโฮจิมินห์ ถือเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่มีมาตรฐานระดับสากล ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย และมีหลักสูตรการฝึกสอนที่ผ่านการรับรองคุณภาพโดยองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) จวบจนปัจจุบัน เวียตเจ็ทได้จัดหลักสูตรการฝึกอบรม 250 หลักสูตรแก่นักบิน ลูกเรือ วิศวกร พนักงานการบินรวม 5,623 คน เครื่องจำลองการบินแบบครบวงจรของสถาบันการบินเวียตเจ็ทได้เริ่มใช้งานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 รวมมอบเวลาการฝึกอบรม 3,178 ชั่วโมง แก่ผู้รับการฝึกและครูฝึกกว่า 2,809 คน โดยศูนย์จำลองการบินของเวียตเจ็ทยังได้รับใบรับรองมาตรฐาน ATO level 2 จากองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นมาตรฐานชั้นนำระดับโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียตเจ็ทยังเป็นหนึ่งในวิสาหกิจต่างประเทศเพียงไม่กี่แห่งที่ได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเรน (Japan Federation of Economic Organizations - Keidanren) ซึ่งเฟซบุ๊กก็ได้เข้าร่วมกับเคดันเรนในวันเดียวกัน นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของเวียดนามประจำปี พ.ศ. 2561
ด้วยผลประกอบการเชิงบวก การขยายเครือข่ายการบินทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก ร่วมกับความสามารถในการบริหารต้นทุนและคุณภาพการดำเนินงาน ทำให้เวียตเจ็ทคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตเชิงบวกได้ในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการขนส่งภายในประเทศและการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่คณะกรรมการบริหารของบริษัทได้รายงานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เวียตเจ็ทยังหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาคารขนส่งผู้โดยสาร ปรับปรุงบริการด้านเทคนิค บริการภาคพื้นดิน และการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มความได้เปรียบและประสิทธิภาพการดำเนินงานของสายการบิน ร่วมกับการขยายธุรกิจในตลาดการบินอย่างต่อเนื่อง
เกี่ยวกับ เวียตเจ็ทกรุ๊ป
สายการบินเวียตเจ็ท คือสายการบินในประเทศเวียดนามรายแรกซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินยุคใหม่ ซึ่งนอกจากบริการขนส่งผู้โดยสาร สายการบินเวียตเจ็ทยังใช้เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซใหม่ล่าสุด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการมากมายแก่ผู้บริโภค เมื่อเร็ว ๆ นี้ สายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) ได้รับบรรจุเป็นสมาชิกของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (International Air Transport Association: IATA) โดยสมบูรณ์ หลังจากได้รับใบรับรองการบริหารความปลอดภัยของสายการบินจากไออาตาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัล "สายการบินต้นทุนต่ำพิเศษยอดเยี่ยมแห่งปี 2018-2019 (Best Ultra Low-Cost Airline 2018-2019) และยังได้รับการจัดอันดับด้านความปลอดภัยระดับ 7 ดาวจากเว็บไซต์ AirlineRatings.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านความปลอดภัยและการจัดอันดับผลิตภัณฑ์ระดับโลก นอกจากนี้ บริษัทยังติดอันดับ 50 สายการบินที่มีสถานทางการเงินและการดำเนินงานเข้มแข็งที่สุดของโลกโดยนิตยสาร Airfinance Journal ในปี ค.ศ. 2018
ปัจจุบัน เวียตเจ็ทดำเนินการบิน 400 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งให้บริการแก่นักเดินทางมาแล้วกว่า 80 ล้านคน เปิดให้บริการ 120 เส้นทางในเวียดนามและทั่วภูมิภาค รวมถึงเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกัมพูชา
ติดตามข่าวสารล่าสุดของเวียตเจ็ทได้ทาง www.vietjetair.com