กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันสามารถควบคุมไฟได้แล้วบางพื้นที่ แต่ยังคงเฝ้าระวังไฟใต้ดินที่ปะทุอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่พร้อม เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ออกปฏิบัติการควบคุมและดับไฟป่า รวมถึงให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟแล้ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2562 - ปัจจุบัน ยังคงเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียรใหญ่ (ตำบลเขาพระบาท และตำบลการะเกด) อำเภอเฉลิมพระเกียรติ (ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว) และอำเภอชะอวด (ตำบลเคร็ง) โดยพื้นที่อำเภอหัวไทรมีประชาชนได้รับผลกระทบจากควันไฟ 26 ราย ใน 7 ตำบล ได้แก่ ตำบลทรายขาว ตำบลบ้านราม ตำบลบางนบ ตำบลท่าซอม ตำบลเกาะเพชร ตำบลหัวไทร และตำบลหน้าสตน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต สำหรับภาพรวมสถานาการณ์ล่าสุด สามารถควบคุมไฟได้แล้วบางพื้นที่ แต่ยังคงเฝ้าระวังไฟใต้ดินที่ปะทุอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ปภ. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่า ปภ. โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง ขนาด 10,000 ลิตร พร้อมชุดยานยนต์ดับเพลิงฉีดละอองน้ำ รถดับไฟป่า รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำและสูบส่งระยะไกล รถผลิตน้ำดื่มสนับสนุนโรงครัวพระราชทาน รถยนต์กู้ภัยชุดลากพ่วงยานยนต์ดับเพลิง รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ขนาด 6,000 ลิตร รถบรรทุกน้ำ ขนาด 6,000 ลิตร รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถบรรทุกขนาดเล็ก พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต รวม 19 นาย และเจ้าหน้าที่ 6 นาย เข้าสนับสุนนการควบคุมและดับไฟป่า อีกทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนร่วมป้องกันไฟไหม้ป่า โดยงดเว้นการเผาขยะใกล้แนวชายป่า ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพงหญ้าแห้ง กำจัดวัชพืชในพื้นที่การเกษตร โดยวิธีไถกลบแทนการจุดไฟเผา รวมถึงไม่เก็บหาของป่าหรือล่าสัตว์ด้วยวิธีการจุดไฟหรือรมควัน เพราะมีความเสี่ยงที่ไฟจะลุกลามเป็นไฟป่า ท้ายนี้ ประชาชนพบเห็นไฟป่าสามารถติดต่อแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าควบคุมและดับไฟป่าโดยด่วน