กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--โฟร์ฮันเดรท
เฮเฟเล่ ( Haefele) ร่วมงาน interzum 2019 ณ เมืองโคโลญจ์ ประเทศเยอรมนี งานแฟร์ที่รวบรวมเครื่องจักร เครื่องผลิตงานไม้ทุกรูปแบบ รวมไปถึงวัสดุทดแทน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่คนในวงการ เฟอร์นิเจอร์ และอินทีเรีย ดีไซน์เนอร์ จากทุกมุมโลกเข้าร่วมงาน ในปี 2019 นี้ เฮเฟเล่ ได้โชว์แนวคิดอัจฉริยะ พร้อมเครือข่ายดิจิทัลในโลกโมเดิร์นลิฟวิ่ง ที่ผสมผสานไปพร้อมกับโลกดิจิทัล ซึ่ง เฮเฟเล่ (Haefele) เป็นผู้นำตลาดโลกด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ ระบบควบคุมอิเลคทรอนิกส์ และระบบไฟแอลอีดี (LED) สำหรับเฟอร์นิเจอร์และห้องรูปแบบต่างๆ โดยนำมาโชว์ในงาน Interzum ภายใต้สโลแกน "Thinking Ahead" เฮเฟเล่ ได้นำเสนอสีสันของนวัตกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจที่พร้อมวางจำหน่ายในตลาดให้ผู้บริโภคได้สัมผัส โดยเป็นการช่วยให้กลุ่มธุรกิจคู่ค้าในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และผู้ผลิตอุปกรณ์ตู้ รวมทั้งลูกค้าของเฮเฟเล่ (Haefele) ตื่นตาตื่นใจภายในงาน
ครั้งนี้ เฮเฟเล่ (Haefele) ยังได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์คุณภาพยอดเยี่ยม Interzum Award 2019 กับผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงสามรางวัลด้วยกัน ได้แก่ ระบบ Connect Mesh system ที่มาพร้อมกับเฟิร์มแวร์ สวิตช์ผนัง และรีโมทคอนโทรลที่เป็นนวัตกรรมใหม่ Free Space อุปกรณ์บานพับดีไซน์เส้นสาย และ Easiness อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ (เช่น พุกโลหะ มือจับ ตัวรองสกรู) ซึ่งล้วนได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์คุณภาพยอดเยี่ยมทั้งสิ้น
และ ณ บูธของ เฮเฟเล่ ได้มีการโชว์นวัตกรรมระบบเครือข่ายดิจิทัลในห้องต่างๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เพื่อยกมาเป็นประเด็นเกี่ยวกับกระแสในปัจจุบัน และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยผลิตภัณฑ์ของ เฮเฟเล่ มีความโดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ อาทิ Loox5 ที่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ของระบบไฟแอลอีดี (LED) และการเชื่อมต่ออัจฉริยะในโลกที่เน้นการเป็นสมาร์ทลิฟวิ่ง
นวัตกรรมสินค้าของ เฮเฟเล่ พร้อมวางตลาด บุกตลาดเฟอร์นิเจอร์โลก
อีกครั้งที่ Interzum เป็นพื้นที่นำเสนอวิสัยทัศน์แห่งอนาคตที่ให้เห็นว่าระบบเครือข่ายดิจิทัลจะดำเนินไปในทิศทางใดต่อไป เฮเฟเล่ (Haefele) มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลจะเป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และรูปแบบการใช้ชีวิต หากมันสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์และมอบความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้กับผู้ใช้งานได้ ดังนั้นระบบดิจิทัลจะต้องง่ายต่อการใช้งานจริง ทั้งในแง่ของการผสมผสานเข้ากับเฟอร์นิเจอร์และในแง่ของฟังก์ชัน เฮเฟเล่ (Haefele) กล่าวว่าเมื่อใดก็ตามที่เรา "คิดไปข้างหน้า" ก็จะต้องมองหาความสะดวกง่ายดายเป็นหลัก หน้าที่ของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์จะต้องเน้นทั้งสองด้าน นั่นคือการผสมผสานและดิจิทัลซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจ
บนพื้นที่นิทรรศการขนาด 1,480 ตารางเมตร ทีมเทรดแฟร์นานาชาติของ เฮเฟเล่ (Haefele) ได้มีการสาธิตให้เห็นว่าแบรนด์เฮเฟเล่โฟกัสที่มาตรฐานชั้นสูงและยังทำให้เห็นว่าสามารถใช้งานได้จริง พร้อมทั้งยังทำให้อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ตื่นตัวอีกด้วย
บูธของ เฮเฟเล่ (Haefele) ในงานเทรดแฟร์ที่โคโลญนี้ สามารถนำเสนอแนวคิดระบบเครือข่ายดิจิทัล เทคโนโลยีเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้นวัตกรรมใหม่ และแนวทางแบบผสมผสานได้อย่างประทับใจผู้เยี่ยมชมจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายและใหม่ล่าสุดมากมายที่นำมาจัดแสดง สื่อให้เห็นว่าโลกอัจฉริยะสามารถเกิดขึ้นได้จริงจากความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตอุปกรณ์ประกอบและอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
"เมื่อสมาร์ทเฟอร์นิเจอร์โคจรมาพบสมาร์ทโฮม" เทคโนโลยี Haefele Connect Mesh ทำให้สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นวิมานในอากาศที่งาน Interzum เมื่อสองปีที่แล้ว กลายเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย เฮเฟเล่ ( Haefele) แสดงให้เห็นผ่านตัวอย่างของไมโครอพาร์ทเม้นท์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ และตัวอย่างห้องครัวที่มาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างและลำโพงที่ผสมผสานเข้าด้วยกันและควบคุมได้ด้วยสมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ตอย่างง่ายดาย
Haefele Connect ระบบที่เติบโตตามการใช้งาน
เมื่อการใช้ชิวิตกลายเป็นระบบดิจิทัล กล่าวในอีกทางหนึ่งก็คืออุปกรณ์ ระบบ และแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ต่างกัน จะต้องสื่อสารภาษาเดียวกันเพื่อให้ชีวิตดิจิทัลนั้นง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Haefele Connect นำอุปกรณ์ต่างๆ มาเชื่อมต่อกันและทำให้สามารถสื่อสารระหว่างกันได้ด้วยระบบตัวกลางที่สามารถเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ๆ เข้ามาในระบบได้ตามแต่ต้องการ โดยอาจใช้ชิป Haefele Connect ซึ่งเป็นหัวใจของระบบ Haefele Connect Mesh หรือ Haefele Connect Hub เป็น "ตัวแปลสัญญาน" ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานของเครือข่ายนั้นๆ เช่น เครือข่ายไร้สายสำหรับระบบไฟส่องสว่างของ เฮเฟเล่ (Haefele) ทั้งหมด ระบบของเฮเฟเล่ (Haefele) ที่เชื่อมต่อกันกับอุปกรณ์ประกอบ การผสมผสานอุปกรณ์ภายนอกเข้ากับแพลตฟอร์ม และการเชื่อมต่อเข้ากับระบบอัจฉริยะภายนอกอื่นๆ
เพิ่มแสงสว่างให้กับเฟอร์นิเจอร์และห้อง
ใครก็ตามที่สนใจหาไอเดียใหม่ จะได้พบไอเดียเหล่านี้ที่บูธของเฮเฟเล่ ( Haefele) อนาคตใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ด้วย Loox5 เจเนอเรชั่นใหม่ของผลิตภัณฑ์กลุ่มไฟแอลอีดี ( LED) วางขายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2019 และล้ำยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มฟังก์ชันเทอร์โบชาร์จเจอร์สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและเชื่อมต่อกับไฟส่องสว่างในห้อง Loox5 ให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับงานออกแบบที่เน้นการใช้แสงสว่างซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ยิ่งง่ายดายสำหรับการวางผัง การติดตั้ง และการควบคุม Loox5 ยังเป็นแนวคิดตั้งต้นให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์อัจฉริยะอื่นๆ ของเฮเฟเล่ ( Haefele) อีกด้วย แอพลิเคชั่น Haefele Connect Mesh ที่ใช้ในการควบคุมเครือข่าย Smart Product ของเฮเฟเล่ ( Haefele) รวมทั้งการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกนั้นทำให้ทุกอย่างกลายเป็นจริงขึ้นมาได้
บริการครบวงจรสำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
เฮเฟเล่ (Haefele) นำเสนอบริการชั้นเยี่ยมให้กับคู่ค้าด้วยความเชี่ยวชาญในกระบวนการทั้งหมดของอุตสาหกรรม ตั้งแต่การวางแผน การผลิต ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ เช่นในงาน Interzum ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้เครือข่ายควบคุมระบบแสงไฟส่องสว่างในห้องครัวที่ใช้ในชีวิตจริง นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีเฟอร์นิเจอร์มากมายที่กลมกลืนไปกับภาพรวมของห้องทั้งหมด ผ่านตัวอย่างการจัดแสดงห้องครัว 3 ห้อง รวมทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ เฮเฟเล่
Nimbus ผู้บุกเบิกธุรกิจไฟแอลอีดี ( LED) และน้องเล็กสุดในครอบครัวของเฮเฟเล่ (Haefele) พร้อมแล้วที่จะร่วมเป็นหนึ่งในดีไซน์เลิศหรู และขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี พร้อมทั้งขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านไฟส่องสว่างในทุกพื้นที่ ทั้งรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงห้องที่หลากหลาย
ในงาน interzum 2019 ครั้งนี้ เฮเฟเล่ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลท์อีกมากมาย
- เจเนอเรชั่นที่ห้าของ Loox กลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟส่องสว่างประเภทแอลอีดี ( LED) ของเฮเฟเล่ (Haefele) โดย Loox5 นั้นเป็นระบบที่ถูกคิดค้นขึ้นใหม่ทั้งหมด ทำให้ง่าย เป็นระเบียบ และสอดคล้องกับการใช้งานมากขึ้น ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีแอลอีดี ( LED) ทั้งสี่เจเนอเรชั่นก่อนหน้า ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาได้จนสำเร็จในเจเนอเรชั่นที่ห้า Loox ตอบโจทย์ความต้องการระบบไฟส่องสว่างสำหรับเฟอร์นิเจอร์และห้องรูปแบบต่างๆ รวมทั้งระบบการเชื่อมโยงเครือข่าย ระบบดิจิตอล ที่มาพร้อมกับความเรียบง่ายและความยืดหยุ่นขั้นสุดที่กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นในปัจจุบัน Loox นำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับระบบเครือข่ายดิจิตอลผ่านแอพลิเคชั่น Haefele Connect รวมถึงการเชื่อมต่อไปยังระบบเครือข่ายภายนอกอีกด้วย
- Designer lights by Nimbus เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เฮเฟเล่ (Haefele) ประกาศควบรวมบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านไฟแอลอีดี ( LED) และระบบเสียงที่มีฐานผลิตในเมืองสตุทท์การ์ทอย่าง Nimbus และที่ Interzum ในครั้งนี้ Nimbus ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในพรีเซนเทชั่นของเฮเฟเล่ (Haefele) โดยสมบูรณ์ นอกจากจะมีการจัดแสดงผลงานออกแบบแสงไฟในพื้นที่นิทรรศการแล้ว แบรนด์งานออกแบบเชิง สถาปัตยกรรมนี้ยังฉายสเน่ห์ทุกตารางนิ้วภายในพื้นที่บูธอีกด้วย Nimbus และ เฮเฟเล่ (Haefele) คือสองแบรนด์ที่เคียงข้างกันและเติบโตไปด้วยกัน
- นวัตกรรมเร้าใจที่มาใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บานพับรุ่น Free Flap ของเฮเฟเล่ ( Haefele) ที่เป็นอุปกรณ์บานพับนวัตกรรมใหม่ขนาดเล็กที่จิ๋วแต่ทรงพลังไม่มีใครเหมือน ด้วยดีไซน์กะทัดรัด Free Space ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้กับเฟอร์นิเจอร์มากกว่าบานพับรุ่นอื่นที่ได้รับความนิยมในเกรดเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีการสาธิตงานวิจัยอุปกรณ์บานพับที่พอดีกับขนาดของ iPad โดยอุปกรณ์รุ่นนี้มีขนาดเล็กมากพอที่สามารถติดตั้ง iPad เข้ากับตู้แขวนใดๆ ก็ตามได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็ยังคงความแข็งแรงทรงพลังและยืดหยุ่นพอที่จะสามารถตอบสนองการใช้งานรูปแบบต่างๆ เช่น การพับลงเพื่อปิดตู้บาร์ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ อุปกรณ์นำ เทรนด์ที่สอบผ่านฟังก์ชันการใช้งานในทุกรูปแบบนี้ยังจัดแสดงเป็นตัวต้นแบบ โดยจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Interzum 2021 ต่อไป
- ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นในกลุ่มอุปกรณ์เชื่อมต่อเฟอร์นิเจอร์ Ixconnect ของเฮเฟเล่ ( Haefele) ที่ช่วยให้สามารถประกอบเฟอร์นิเจอร์ตู้แขวนทั้งชิ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือเป็นครั้งแรก และสามารถผสมผสานเข้ากับกระบวนการผลิตมาตรฐานตามปกติได้โดยไม่ต้องมีการดัดแปลงใดๆ
- ชุดอุปกรณ์ลิ้นชักรางเลื่อน Matrix ของเฮเฟเล่ ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับการใช้งานทุกรูปแบบ ที่บูธเฮเฟเล่ มีการสาธิตรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ ตั้งแต่ฟังก์ชันใช้งานพื้นฐานไปจนถึงระบบการใช้งานแบบไฮเอนด์
- ชุดตู้แขวน DressCode ซึ่งถูกออกมาแบบมาได้อย่างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวนั้น สามารถเพิ่มตู้เสื้อผ้าให้เข้าเซ็ตกันได้ โดยทั้งชุดนี้มีพร้อมจำหน่ายตามประเทศต่างๆ แล้ว เซ็ตทั้งหมดสามารถประกอบเข้าด้วยกันหรือแยกชิ้นได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วย ซึ่งช่วยลดเวลาในการประกอบได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับวิธีดั้งเดิมที่ใช้สกรูเป็นตัวเชื่อม โดยตู้และชั้นเซ็ตนี้มีตัวต่อเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับรางวัลเป็นหัวใจที่สำคัญของเซ็ต
- Axilo ชุดฐานเฟอร์นิเจอร์ปรับได้แสนชาญฉลาดของเฮเฟเล่ ( Haefele) ที่ประกอบด้วยแขนยกตู้แขวนผนังนั้น เพิ่งได้รับรางวัล Red Dot Award ไปสดๆ ร้อนๆ
- ขาโต๊ะรุ่น Officys มาในสีใหม่นำเทรนด์ล่าสุดคือดำกราไฟท์ ที่จะช่วยเพิ่มความโมเดิร์นให้บรรยากาศออฟฟิศเดิม พื้นที่กลาง หรือ Co-working Space ต่างๆ โดยไฮไลท์ของรุ่นนี้คือ Haefele Officys TE 651 ที่สามารถปรับความสูงของขาโต๊ะได้
- ชุดอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่สำหรับรถคาราวานที่จัดแสดงในรถคาราวานจำลองที่บูธของเฮเฟเล่ ( Haefele) กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้มาพร้อมกับ Loox ที่เป็นระบบไฟแอลอีดี (LED) และจุดชาร์จไฟฟ้าสำหรับสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาสำหรับรถคาราวานโดยเฉพาะ
- ชุดอุปกรณ์ตะแกรงโลหะสำหรับห้องครัวใหม่ล่าสุดที่มาจากการพัฒนาของแบรนด์นั้น ช่วยทำให้ภาพรวมของห้องครัว เฮเฟเล่ (Haefele) สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ช่วยเติมเต็มความสุดยอดให้กับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเฮเฟเล่ (Haefele) พร้อมทั้งมอบคุณภาพชั้นเลิศในราคาที่จับต้องได้ ชุดตะแกรงโลหะมาในสีที่แมทช์กับลิ้นชักของเฮเฟเล่ (Haefele) และสามารถหาซื้อได้แล้วทั่วโลก
- มือจับเฟอร์นิเจอร์ใหม่ในคอลเลคชั่น Haefele H19 ถูกออกแบบมาให้เข้ากับเทรนด์ล่าสุดในดีไซน์ซีรีส์ Textile, Nouveau Art Deco และ Cube ของเฮเฟเล่ (Haefele) โมเดลในซีรี่ส์ที่มีชื่อว่า "Textile" นั้นได้รับรางวัล Red Dot Design Award จากเทรนด์การออกแบบที่ไม่มีใครเหมือน เฮเฟเล่ (Haefele) ได้กลายเป็นผู้นำเทรนด์ทั่วโลกในด้านอุปกรณ์มือจับเฟอร์นิเจอร์ โดยคอลเลคชั่น H19 นี้มีมือจับดีไซน์ใหม่ถึง 14 แบบ มาในขนาดหลากหลาย พร้อมกับสีและผิวสัมผัสที่ล้ำสมัย
เฮเฟเล่ (Hafele) คือกลุ่มบริษัทระดับโลกที่มีสาขาหลักในนาโกล์ด (Nagold) ประเทศเยอรมนี ธุรกิจที่ถือครองและบริหารงานโดยครอบครัวนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1923 และปัจจุบันทำหน้าที่ให้กับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สถาปัตยกรรม การออกแบบผัง ธุรกิจประกอบตู้และอุปกรณ์ รวมทั้งประกอบการค้าผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์และเครื่องมือเชิงสถาปัตยกรรม ระบบควบคุมอิเลคทรอนิกส์ และไฟแอลอีดี (LED) ในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก เฮเฟเล่ (Hafele) มีฐานการพัฒนาและการผลิตในประเทศเยอรมนีและฮังการี โดยในปีงบประมาณ 2018 Hafele Group สามารถสร้างยอดส่งออกได้ถึง 80% จากฐานพนักงานกว่า 7,800 คน ผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายตรงและอื่นๆ กว่า 37 เจ้าทั่วโลก และมีรายได้กว่า 1.4 พันล้านยูโร