กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--นิด้าโพล
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019 – 2020 และฟุตบอลไทยลีก 1 – 2019" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1 – 6 สิงหาคม 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,509 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019 – 2020 และฟุตบอลไทยลีก 1 – 2019 การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ "นิด้าโพล" ด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) โดยแบ่งชั้นภูมิตามภูมิภาคจากนั้นในแต่ละภูมิภาค สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึง การติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2018 – 2019 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.80 ระบุว่า ไม่ติดตาม ขณะที่ ร้อยละ 45.20 ระบุว่า ติดตาม ซึ่งเมื่อถามผู้ที่ติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2018 – 2019 ถึงความถี่ในการติดตาม พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.54 ระบุว่า ติดตามเป็นครั้งคราว และร้อยละ 23.46 ระบุว่า ติดตามสม่ำเสมอ
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ ปี 2560 พบว่า ผู้ที่ไม่ติดตามในปี 2562 มีสัดส่วน ลดลง อย่างชัดเจน และผู้ที่ติดตาม มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น อย่างชัดเจนเช่นกัน โดยผลการสำรวจในปี 2560 พบว่า ร้อยละ 77.40 ไม่ติดตาม ขณะที่ร้อยละ 22.60 ติดตาม และเมื่อเปรียบเทียบความถี่ของผู้ที่ติดตามกับผล การสำรวจในปี 2560 พบว่า ผู้ที่ติดตามเป็นครั้งคราวในปี 2562 มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น และผู้ที่ติดตามสม่ำเสมอ มีสัดส่วน ลดลง โดยผลการสำรวจในปี 2560 พบว่า ร้อยละ 70.62 ติดตามเป็นครั้งคราว ขณะที่ร้อยละ 29.38 ติดตามสม่ำเสมอ
สำหรับทีมที่ชื่นชอบมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในฤดูกาล 2019 – 2020 พบว่า ประชาชนที่ติดตามส่วนใหญ่ ร้อยละ 34.22 ระบุว่า ชื่นชอบทีมลิเวอร์พูล (Liverpool) รองลงมา ร้อยละ 28.84 ระบุว่า ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester United) ร้อยละ 10.14 ระบุว่า ทีมเชลซี (Chelsea) ร้อยละ 7.67 ระบุว่า ทีมอาร์เซนอล (Arsenal) ร้อยละ 5.11 ระบุว่า ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (Manchester City) ร้อยละ 0.97 ระบุว่า ทีมเลสเตอร์ซิตี (Leicester City) ร้อยละ 1.76 ระบุว่า ทีมอื่น ๆ ได้แก่ ทอตนัมฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur), เอฟเวอร์ตัน (Everton), นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (Newcastle United), แอสตันวิลลา (Aston Villa), ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน (Brighton & Hove Albion), เบิร์นลีย์ (Burnley), คริสตัลพาเลซ (Crystal Palace), นอริชซิตี (Norwich City), เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด (Sheffield United), เวสต์แฮมยูไนเต็ด (West Ham United), และ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ (Wolverhampton Wanderers) และร้อยละ 11.29 ระบุว่า ไม่ชอบทีมใดเป็นพิเศษ
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ ปี 2560 (5 อันดับแรก) พบว่า ผู้ที่ชื่นชอบทีมลิเวอร์พูล (Liverpool) ในปี 2562 มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น อย่างชัดเจน ผู้ที่ชื่นชอบทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester United) มีสัดส่วน ลดลง อย่างชัดเจน ผู้ที่ชื่นชอบทีมเชลซี (Chelsea) มีสัดส่วน ลดลง ผู้ที่ชื่นชอบทีมอาร์เซนอล (Arsenal) มีสัดส่วน ลดลง และผู้ที่ชื่นชอบทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (Manchester City) มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น โดยผล การสำรวจปี 2560 พบว่า ร้อยละ 27.25 ชื่นชอบทีมลิเวอร์พูล (Liverpool) ร้อยละ 34.16 ชื่นชอบทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester United) ร้อยละ 11.33 ชื่นชอบทีมเชลซี (Chelsea) ร้อยละ 8.67 ชื่นชอบทีมอาร์เซนอล (Arsenal) และร้อยละ 3.54 ชื่นชอบทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (Manchester City)
ด้านการติดตามฟุตบอลไทยลีก 1 – 2019 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.22 ระบุว่า ไม่ติดตาม ขณะที่ ร้อยละ 48.78 ระบุว่า ติดตาม ซึ่งเมื่อถามผู้ที่ติดตามฟุตบอลไทยลีก 1 – 2019 ถึงความถี่ในการติดตาม พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.72 ระบุว่า ติดตามเป็นครั้งคราว และร้อยละ 15.28 ระบุว่า ติดตามสม่ำเสมอ
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ ปี 2560 พบว่า ผู้ที่ไม่ติดตามในปี 2562 มีสัดส่วน ลดลง อย่างชัดเจน และผู้ที่ติดตาม มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น อย่างชัดเจนเช่นกัน โดยผลการสำรวจในปี 2560 พบว่า ร้อยละ 71.76 ไม่ติดตาม ขณะที่ร้อยละ 28.24 ติดตาม และเมื่อเปรียบเทียบความถี่ของผู้ที่ติดตามกับผล การสำรวจในปี 2560 พบว่า ผู้ที่ติดตามเป็นครั้งคราวในปี 2562 มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น และผู้ที่ติดตามสม่ำเสมอ มีสัดส่วน ลดลง โดยผลการสำรวจในปี 2560 พบว่า ร้อยละ 82.86 ติดตามเป็นครั้งคราว ขณะที่ร้อยละ 17.14 ติดตามสม่ำเสมอ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงทีมที่ชื่นชอบมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 – 2019 (เฉพาะ 5 อันดับแรก) พบว่า ประชาชนที่ติดตามส่วนใหญ่ ร้อยละ 38.56 ระบุว่า ชื่นชอบทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองลงมา ร้อยละ 15.19 ระบุว่า ทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ร้อยละ 5.96 ระบุว่า ทีมการท่าเรือ FC ร้อยละ 4.90 ระบุว่า ทีมชลบุรี FC และร้อยละ 4.41 ระบุว่า ทีมสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ ปี 2560 (5 อันดับแรก) พบว่า ผู้ที่ชื่นชอบทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2562 มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น อย่างชัดเจน ผู้ที่ชื่นชอบทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีสัดส่วน ลดลง อย่างชัดเจน ผู้ที่ชื่นชอบทีมการท่าเรือ FC มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น ผู้ที่ชื่นชอบ ทีมชลบุรี FC มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น และผู้ที่ชื่นชอบทีมสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น โดยผลการสำรวจ ปี 2560 พบว่า ร้อยละ 25.07 ชื่นชอบทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร้อยละ 33.29 ชื่นชอบทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ร้อยละ 1.84 ชื่นชอบทีมการท่าเรือ FC ร้อยละ 3.68 ชื่นชอบ ทีมชลบุรี FC และร้อยละ 2.27 ชื่นชอบทีมสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 8.81 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 25.63 มีภูมิลำเนาอยู่ปริมณฑล และภาคกลาง ร้อยละ 18.09 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.84 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 13.63 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ ตัวอย่างร้อยละ 62.02 เป็นเพศชาย และร้อยละ 37.98 เป็นเพศหญิง
ตัวอย่างร้อยละ 9.25 มีอายุ 15 – 25 ปี ร้อยละ 19.69 มีอายุ 26 – 35 ปี ร้อยละ 24.15 มีอายุ 36 – 45 ปี ร้อยละ 29.89 มีอายุ 46 – 59 ปี และร้อยละ 17.02 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 93.78 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.79 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 0.68 นับถือศาสนาคริสต์ และอื่น ๆ และร้อยละ 2.75 ไม่ระบุศาสนา ตัวอย่างร้อยละ 27.02 สถานภาพโสด ร้อยละ 67.76 สมรสแล้ว ร้อยละ 2.19 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ และร้อยละ 3.03 ไม่ระบุสถานภาพการสมรส
ตัวอย่างร้อยละ 24.35 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 31.77 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.33 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 27.06 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ร้อยละ 5.14 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 3.35 ไม่ระบุการศึกษา
ตัวอย่างร้อยละ 12.00 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 15.66 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.12 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 13.67 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.82 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 14.79 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน ร้อยละ 3.03 เป็นนักเรียน/นักศึกษา และร้อยละ 3.91 ไม่ระบุอาชีพ
ตัวอย่างร้อยละ 15.19 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 20.84 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 26.66 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 20,000 บาท ร้อยละ 12.08 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท ร้อยละ 6.10 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001 – 40,000 บาท ร้อยละ 7.13มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 12.00 ไม่ระบุรายได้