กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง
TPCH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 95.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% เทียบจากไตรมาส 1/62 ขณะที่รายได้ 412.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% จากไตรมาส 1/62 เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า 6 แห่ง"CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP" ที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ครบตามขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 60 เมกะวัตต์ บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.084 บาท/หุ้น พร้อมจ่ายเงินสด 5 ก.ย.นี้ บิ๊กบอส" กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี" แจงครึ่งปีหลังจ่อ COD โรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH 1, TPCH 2 เพิ่มอีก 20 เมกะวัตต์ หนุนผลการดำเนินงานปีนี้สดใส
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และมีบริษัท ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด (CRB) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากชีวมวล เป็นบริษัทแกน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส2/62 มีกำไรสุทธิ 95.45 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12.5%จากไตรมาส 1/62 ที่มีกำไรสุทธิ 84.85 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 412.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% จากไตรมาส 1/62
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 180.30 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5.05% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 171.64 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 804.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.07% จากงวดเดียวกันปีก่อน
การที่รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากการเดินเครื่องที่เต็มกำลังของโรงไฟฟ้าชีวมวล 6 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าบริษัท ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด (CRB) มีปริมาณการขายไฟฟ้า 9.2 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) มีปริมาณการขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าบริษัทมหาชัย กรีน เพาเวอร์ จำกัด(MGP)มีปริมาณการขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าบริษัท ทุ่งสัง กรีน จำกัด (TSG)มีปริมาณการขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 9.2 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าบริษัทพัทลุง กรีน เพาเวอร์ จำกัด (PGP) มีปริมาณการขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 9.2 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าบริษัทสตูล กรีน เพาเวอร์ จำกัด(SGP) มีปริมาณการขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 9.2 เมกะวัตต์
"ในไตรมาส2/62 บริษัทฯมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เพราะสามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลได้เต็มกำลังการผลิต โดยไม่มีผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีแค่ 1 โรง คือโรงไฟฟ้าแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) เพียงเวลาแค่ 7 วัน อย่างไรก็ตามคาดว่าทิศทางในครึ่งปีหลังยังเติบโตได้มากขึ้นเพราะจะทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่คาดว่าจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เพิ่มเติมจากปัจจุบัน"
ประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวต่อว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในงวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 62 ในอัตราหุ้นละ0.084 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 33.70 ล้านบาท ทั้งนี้จะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 22 สิงหาคมนี้และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 62
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบเพิ่มเป็น 80 เมกะวัตต์ โดยในไตรมาส 4/62 จะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าสู่ระบบเพิ่มอีก 20 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH 1, TPCH 2 ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้าจะมีใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในปี 2563 อยู่ที่ 200 เมกะวัตต์
ล่าสุด บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด ที่ TPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งโรงไฟโดยมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 9.5 เมกะวัตต์ และมีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ในไตรมาส 4/63 นอกจากนี้บริษัทยังมีการแผนการขยายการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างสรุปแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส ที่ประเทศเมียนมา เป็นต้น