กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) แจ้ง 6 เดือนแรกของปี 62 โชว์รายได้รวมแตะ 3,365.3 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 151.8 ล้านบาท ส่งผลครึ่งปีแรก กวาดยอดขายถ่านหิน 1.45 ล้านตัน ด้านผู้บริหาร " พนม ควรสถาพร " เผยครึ่งปีหลัง เน้นขยายฐานลูกค้าในประเทศเพิ่ม บวกทำการตลาดในเวียดนาม-กัมพูชา-จีนแบบเชิงรุกมากขึ้น เน้นการเจาะตลาดธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้าเสริมความแข็งแกร่งของผลงานในระยะยาว
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 1,715 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,048 ล้านบาท โดยมีรายได้จากธุรกิจขายถ่านหินอยู่ที่ 1,611.3 ล้านบาท และ รายได้จากธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ และทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้า 103.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 71.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 46.5 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2562 ของบริษัทฯ มีรายได้รวม 3,365.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม อยู่ที่ 3,639.9 ล้านบาท มีปริมาณขายถ่านหิน อยู่ที่ 1.45 ล้านตัน ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 151.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 78.6 ล้านบาท จากมาตรการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการลดต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งทางบกและทางน้ำจากการใช้บริการของบริษัทในเครือ
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2562 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ จากมาตรการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การขยายฐานลูกค้าในประเทศ และ รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น" นายพนม กล่าว
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากหลายๆ ด้าน ทั้งปัจจัยเศรษฐกิจ สงครามการค้า และการแข่งขัน แต่บริษัทฯ ก็ยังคงรักษาระดับมาตรฐาน รวมถึงยังคงเน้นเจาะตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจุบันบริษัทฯ มียอด ออเดอร์ถ่านหินที่รอการส่งมอบให้กับลูกค้าแล้วกว่า 1 ล้านตัน
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายการให้บริการในส่วนของธุรกิจโลจิสติกส์ ด้านขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้า มากขึ้น โดยได้ดำเนินการสั่งต่อเรือเพิ่มอีก 16 ลำหลังจากได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก EXIM BANK ในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าจะทยอยส่งมอบได้ทั้งหมดในปี 2563 ส่งผลให้บริษัทฯ มีจำนวนกองเรือลำลียง เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 40 ลำ จากปี 2562 ที่มีเรือลำเลียง จำนวน 24 ลำ