กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม
ITEL อวดผลงานไตรมาส 2/2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 592 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท หรือ 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 492 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท หรือ 39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สืบเนื่องมาจากประสิทธิภาพและเสถียรภาพและโครงข่าย ประกอบกับการรักษาฐานลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น จากบริการเชื่อมต่อข้อมูลและธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ซึ่งเป็นบริการหลักของบริษัท โดยรายได้จากงานให้บริการโครงข่ายโต 39% ส่วนงานให้บริการติดตั้งโครงข่ายโต 11% และรายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์โต 18% "ณัฐนัย อนันตรัมพร" เอ็มดี มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตกระฉูด หลังตุน Backlog แล้วกว่า 5,312 ล้านบาท หนุนรายได้ทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% เร่งเดินแผนบริหารจัดการ และการรุกตลาดใหม่ๆ รับความต้องการใช้โครงข่ายวงจรสื่อสารความเร็วสูง
นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 592 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 492 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 2/2562 บริษัทมีรายได้จากงานบริการโครงข่ายอยู่ที่ 214 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ37 ของรายได้จากการให้บริการ เทียบกับไตรมาส 2/2561 ที่มีรายได้ 154 ล้านบาท เป็นผลสืบเนื่องจากโครงข่ายของบริษัทฯครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มเส้นทางเชื่อมต่อไปยังลูกค้า ในขณะเดียวกันโครงข่ายของบริษัทฯเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจด้วยคุณภาพของการให้บริการ จึงทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ต่อมาเป็นการให้บริการติดตั้งโครงข่าย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 59 หรือมีรายได้อยู่ที่ 349 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 4 ของรายได้จากการให้บริการ หรือมีรายได้จำนวน 24 ล้านบาท ปัจจุบันอัตราการเข้าใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นเป็น 95% อีกทั้งบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการหาโซลูชั่นใหม่ ๆ ตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมทั้งความต้องการของลูกค้า เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ควบคู่กับการบริหารจัดการภายใน ควบคุมค่าใช้จ่ายในอัตราที่เหมาะสม
นายณัฐนัยกล่าวต่อว่า "ผลงานครึ่งปีแรกเติบโตขึ้นเป็นที่น่าพอใจ จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งมีการเติบโตสูง ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา นับเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น จากงานโครงการที่เริ่มทยอยออกมาประมูลอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสที่ ITEL จะนำความเชี่ยวชาญจากทีมวิศวกรและจุดแข็งของบริการเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและการบริหารงานในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทฯ มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐล่าสุด บริษัทฯ และบมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส (ICN) ในนาม "กิจการค้าร่วมอินเตอร์ลิ้งค์และไอซีเอ็น" ชนะการประกวดราคาในงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งเคเบิลใยเก้วนำแสง แบบ Figure-8 Corrugated Steel Type Amour ชนิด G.652D ขนาด 24 Cores ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่างานทั้งสิ้น 213 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม คาดว่าจะได้มีการลงนามสัญญาจ้างในเดือนส.ค. 62 และมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 365 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาโดยแบ่งสัดส่วนการดำเนินโครงการของ ITEL มูลค่ารวม 128 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และสัดส่วนการดำเนินโครงการของ ICN มูลค่างาน 85 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งบริษัทฯยังได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายกล้องวงจรปิดคู่กับสัญญาที่ได้รับจากงานกรุงเทพมหานคร อย่างน้อย 4 พื้นที่จาก 6 พื้นที่ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท โดยคาดว่าสัญญาจะเริ่มต้นในเดือน ม.ค. 63 และสัญญาให้บริการคิดเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 2 ปี ทั้งนี้ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานคร ด้วยจำนวนประชากรที่อยู่อาศัย อีกทั้งนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ซึ่งหากโครงการนี้เริ่มให้บริการแล้ว บริษัทคาดว่าการให้บริการน่าจะมีความต่อเนื่องได้ในอนาคต
ด้าน MD มั่นใจครึ่งปีหลังแรงได้อีก รับไฮซีซั่นธุรกิจ ส่งซิกแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/62 ร้อนแรง มองแนวโน้มการให้บริการโครงข่ายวงจรสื่อสารความเร็วสูง และงานประมูลภาครัฐและเอกชนดีต่อเนื่อง คาดปีนี้ รายได้แตะ 2,000 ล้านตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากการทยอยรับรู้รายได้จากงานอินเทอร์เน็ตชายพื้นที่ห่างไกล USO Phase 2 สัญญาเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 31 มกราคม 2562 ปัจจุบัน ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 317 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการอีก 40% ภายในปี 2562 คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 420 ล้านบาท ซึ่งความคืบหน้าการก่อสร้างและส่งมอบจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 - 4 และเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ช่วยหนุนให้ผลประกอบการปีนี้นิวไฮต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้เล็งเห็นเทรนด์ธุรกิจที่กำลังเติบโตและขยายเข้ามาในประเทศไทย จึงมุ่งเน้นการเพิ่มกลุ่มบริการใหม่ ๆ พร้อมตั้งทีมผู้บริหารและทีมงานเข้ามาดูแลอย่างเฉพาะเจาะจง ได้แก่ Clound, Big Data Analytics, AI ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยไอที รุกทั้งตลาด B2B และ การรุกตลาดภาครัฐ B2G เพราะในอนาคตการทำงานในองค์กรภาครัฐในยุคดิจิทัล จะต้องมีความรวดเร็ว ว่องไว และสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้ โซลูชั่นของ ITEL จึงเป็นทางเลือกสำคัญที่จะช่วยยกระดับการทำงานและบริการของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนระยะยาวให้กับลูกค้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีพร้อมเดินสายนำเสนอโซลูชั่นเพื่อการต่อยอดทางธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม จากการบริหารจัดการที่ดีในการประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และการรุกการให้บริการในทุกธุรกิจ สนับสนุนให้ผลงานปีนี้มีการเติบโตสูงขึ้นตามแผนงานที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีสัญญาในมือ (Backlog) อยู่ที่ 5,312 พันล้านบาท เป็นงานบริการโครงข่าย 3,850 ล้านบาท งานให้บริการติดตั้งโครงข่าย 1,369 ล้านบาท และงานให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ 93 ล้านบาท สนับสนุนเป้าหมายทั้งปี 2562 ที่วางไว้จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีก่อน โดยมีรายได้แตะ 2,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน คาดว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ ประกาศชัดพร้อมเติบโตระยะยาวและยืนหยัดเป็นธุรกิจเบอร์ต้นๆ ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม