กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป
TFG เปิดกำไรไตรมาส 2/62 พุ่ง 133.41% จากงวดเดียวกันปีก่อน แตะ 518.50 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 7,290.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.61% จากงวดเดียวกันปีก่อน รับผลดีจากราคาขายเนื้อสัตว์ ทั้ง ไก่ และสุกร ปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่น ความต้องการพุ่ง เนื่องจากผลกระทบโรคระบาด ASF สุกรในประเทศจีน เดินหน้าเจาะตลาดใหม่ๆ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพไลน์ผลิตนำเครื่องจักร Automation มาใช้มากขึ้น ช่วยลดต้นทุนหนุนกำไร บอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.07บาท "วินัย เตียวสมบูรณ์กิจ" ประเมินครึ่งปีหลังแนวโน้มดี มั่นใจผลงานปีนี้มีทิศทางดีต่อเนื่อง
นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 518.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.41% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 222.14 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 7,290.24ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.61%จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,712.07 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 722.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 548.83 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ111.38 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 14,114.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.59% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 13,366.63 ล้านบาท
"ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ทั้งไก่ และสุกร ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการการบริโภคไก่มากขึ้น ภายหลังจากเกิดโรคระบาด ASF ของสุกรในประเทศจีน และเกิดภาวะขาดแคลนสุกรทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น จึงเป็นตัวเร่งผลักดันให้ราคาขายและปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นมากในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้"นายวินัยกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ลดต้นทุนจากการบริหารจัดการให้ดีขึ้น เช่น การบริหารจัดการการเก็บสินค้าคงเหลือ การบริหารจัดการระบบการขนส่ง การจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ รวมทั้งบริษัทฯยังลดต้นทุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพของไลน์ผลิตจากการลงทุนในเครื่องจักร Automation ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนจากการดำเนินการได้ดีขึ้น จนทำให้ความสามารถทำกำไรมีทิศทางที่ดีขึ้นได้ ในส่วนของธุรกิจอาหารสัตว์ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น หลังจากที่บริษัทฯได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อขายให้กลุ่มลูกค้านอกเครือมากขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท โดยขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล ( XD) ใน วันที่ 22 สิงหาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2562
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลัง ยังเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ หลังจากที่บริษัทฯพยายามเจาะตลาดใหม่ๆ และส่งสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูง เข้าไปบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีดีมานด์เป็นจำนวนมาก โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการขยายการลงทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขีดความสามารถการแข่งขัน รองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต