กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--เวิร์คลิ้งค์ ดาเอเจนซี่
FTE เผยบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.07 บาท/หุ้น หรือ 81.02% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย ด้านธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตในเกณฑ์ดี มุ่งเน้นรับงานภาคเอกชน รับรู้รายได้เร็ว โชว์ Backlog 450 ล้านบาท เตรียมร่วมมือพันธมิตร พัฒนาระบบบริหารจัดการ ผลักดันรายได้ทั้งปีโตตามเป้า
นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร เปิดเผยถึงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 81.02% ของกำไรสุทธิของบริษัท จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดรวมทั้งสิ้น 42.00 ล้านบาท โดยจะทำการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 22 ส.ค. 62 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 6 ก.ย. 62
สำหรับธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นการรับงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง ในส่วนของภาคเอกชนและโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น อาทิ งานติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานน้ำตาลเกษตรผล (ระยะที่ 2) จังหวัดอุดรธานี งานติดตั้งระบบดับเพลิงโรงงานผลิตกระดาษในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCG) 3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี อำเภอวังศาลา และอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น ซึ่งงานดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ภายใน 6 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการมากกว่า 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการนำเสนองานอีกกว่า 10 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่งานโครงการภาครัฐยังคงมีความเสี่ยงเรื่องความล่าช้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการต่างๆ จะทยอยเปิดให้ยื่นประมูลได้ช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลโครงการภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่างาน Backlog ของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิ.ย.62 อยู่ที่ประมาณ450 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 100 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 350 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 40% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2563 - 2564
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนปรับปรุงต้นทุนการดำเนินงาน เตรียมร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการรับงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าแผนการดำเนินงาน และความร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้ จะส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 245.62 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 254.79 ล้านบาท จำนวน 9.17 ล้านบาท หรือลดลง 3.60% และมีกำไรสุทธิ 24.26 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 41.84 ล้านบาท จำนวน 17.58ล้านบาท หรือลดลง 42.02%
ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 499.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 478.94 ล้านบาท จำนวน 20.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.30% และมีกำไรสุทธิ 54.03 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.46 ล้านบาท จำนวน 4.43ล้านบาท หรือลดลง 7.58%
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากโครงการติดตั้งระบบดับเพลิงในสถานีไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ชะลอการส่งมอบพื้นที่เข้าดำเนินงาน ส่งผลให้รับรู้รายได้ล่าช้า ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง ประกอบกับบริษัทมีการตั้งค่าเผื่อสินค้าที่ล้าสมัย ชำรุด และเคลื่อนไหวช้า อีกทั้งมีการแก้ไขกฎหมายอัตราค่าชดเชยพนักงาน จาก 300 วันเป็น 400 วัน ส่งผลให้มีการบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงของภาคเอกชนหลายแห่ง อาทิ งานติดตั้งระบบดับเพลิงในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ของ True และ UIH (DTAC) งานติดตั้งระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิงในบริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด งานติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานน้ำตาลเกษตรผล (ระยะที่ 1) จังหวัดอุดรธานี เป็นต้น รวมถึงรายได้จากงานจัดจำหน่ายที่มีปริมาณสินค้า และฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น