กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--กระทรวงพาณิชย์
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เตรียมแผนส่งเสริมประชาสัมพันธ์ร้านอาหารไทยในฮ่องกง โดยเฉพาะร้าน Thai Select หลังเหตุประท้วง และข่าวลือฉุดยอดขาย
นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง (สคต.ฮ่องกง) เปิดเผยถึงการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการปรับแก้กฎหมายอนุญาตส่งตัวผู้ต้องสงสัยข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีนในคดีอาชญากรรมร้ายแรง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ยังคงยืดเยื้อและขยายวงกว้าง ว่า ปัจจุบันมีหอการค้า และสมาคมการค้าต่างๆ ของฮ่องกง อาทิ สมาคมผู้ผลิต สมาคมผู้ค้าปลีก ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้ความรุนแรงในการประท้วง และขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากสถานการณ์เริ่มส่งผลกระทบต่อการค้าภายในประเทศแล้ว
"ในระยะสั้นสถานการณ์เริ่มส่งผลกระทบต่อการค้าภายในประเทศ การให้บริการ โดยเฉพาะร้านอาหาร สปา ซึ่งมีผู้ประกอบการไทยดำเนินการอยู่มาก ส่งผลกระทบให้มีผู้เข้ารับบริการลดน้อยลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมเข้ามาใช้บริการในร้านอาหารไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น สคต.ฮ่องกง จึงได้มีแผนการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ร้านอาหารไทย โดยเฉพาะ Thai Select ในฮ่องกงให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว และจะดำเนินการร่วมกับ Open Rice ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างเร่งด่วน " นางชณันภัสร์ กล่าว
ในส่วนของการค้าระหว่างประเทศ ได้สอบถามผู้บริหาร และนักธุรกิจรายใหญ่ของฮ่องกงในหลากหลายสาขา อาทิ ข้าว อาหาร อัญมณี เกี่ยวกับสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งหลายฝ่ายยังคงมั่นใจว่าการชุมนุมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบกับการค้าระหว่างไทย-ฮ่องกง
Mr. Kenneth Chan นายกสมาคมข้าวฮ่องกง และ President of Hong Kong Food Council ให้ความเห็นว่า ขณะนี้สถานการณ์ชุมนุมประท้วงยังไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ และการนำเข้าข้าวแต่สิ่งที่สมาคมข้าวฮ่องกงห่วงกังวล คือ สถานการณ์ภัยแล้งที่ไทย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในอนาคตได้
Mr. Willy Lin กงสุลกิตติมศักดิ์ด้านการค้าของไทยประจำเมืองฮ่องกง (Honorary Trade Advisor: HTA) และดำรงตำแหน่ง Chairman of Hong Kong Productivity Council เห็นว่า การค้าระหว่างประเทศยังไม่กระทบ และชี้แจงในเรื่องข่าวลือของการชุมนุมที่ฮ่องกงว่า การชุมนุมประท้วงที่สนามบินไม่มีความรุนแรง ไม่มีการปิดสนามบินยังสามารถเดินทางในฮ่องกงได้ตามปกติ โดยแนะนำให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด จะสามารถหลีกเลี่ยงการชุมนุมได้ส่วนที่มีการสอบถามในประเด็นกองกำลังทหารจากจีนในฮ่องกงนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วหน่วยทหารของจีน ซึ่งก็คือ People's Liberation Army Hong Kong Garrison (PLA) ได้ประจำการในฮ่องกงอยู่แล้ว ตั้งแต่ปี 1997 โดยมีกองกำลังทหารประมาณ 6,000 นาย และทุกวันนี้ยังคงทำหน้าที่ไปตามปกติ
Mr. Bernard Chan(นายชาญวุฒิ โสภณพนิช) ที่ปรึกษาผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และดำรงตำแหน่ง Chairman of Hong Kong – Thailand Business Councilให้ข้อมูลว่ารัฐบาลฮ่องกงยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็น clip VDO กองทัพ PLA ว่าเป็นเพียงการย้ำเตือนให้ทราบว่า PLA มีความพร้อมหากได้รับการร้องขอจากรัฐบาลฮ่องกงเมื่อเกิดสถานการณ์จำเป็น อย่างไรก็ตามรัฐบาลฮ่องกงได้ออกมายืนยันว่า ตำรวจของฮ่องกงยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ทั้งนี้ มีการประเมินด้วยว่า หากการประท้วงยืดเยื้อยาวนาน และรุนแรงต่อไปจะส่งผลกระทบเชิงลบมากขึ้นต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และการเป็นเมืองเศรษฐกิจการค้า การธนาคาร ของฮ่องกงมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในเรื่องของการเคลื่อนย้ายทุน ทั้งด้านการเงิน และการลงทุน ซึ่งการประท้วงล่าสุด ก่อให้เกิดการไหลของฐานเงินไปยังสิงคโปร์ ลอนดอน นิวยอร์ก และศูนย์อื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากปักกิ่ง และยังมีผลกระทบจาก มาตรการ Trade War ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ส่งผลให้ผู้ประกอบการชาวฮ่องกง ต้องการย้ายฐานการผลิตจากจีน และฮ่องกง ไปยังต่างประเทศ สคต.ฮ่องกง จึงได้เร่งทำแผนสนับสนุนการร่วมธุรกิจและย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการฮ่องกงไปยังประเทศไทย และได้ดำเนินการแล้วโดยนำนักธุรกิจฮ่องกงที่สนใจโอกาสการค้าการลงทุนเดินทางเยือนไทยกว่า 50 ราย ในช่วง 8-10 กรกฎาคม 2562
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์http://www.ditp.go.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่โทรสายตรง 1169