กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้
TITLE สุดเจ๋งรายงานกำไร 6 เดือนแรกปี 62 โตแรง 715.75 % จากงวดเดียวกันปีก่อน และรายได้รวมพุ่งแตะ 883.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431.30% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากทยอยรับรู้ยอดโอนจากโครงการเดิม ทั้งหาดในยาง ภูเก็ต เฟส1-2 และ หาดราไวย์บางส่วน ขณะที่เตรียมแผนเปิดโครงการใหม่ครึ่งปีหลัง ฟาก "ศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม มั่นใจผลงานปีนี้ เข้าเป้ารายได้แตะ 1 พันล้านบาท ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เดินหน้าตุนที่ดิน เพื่อใช้พัฒนาโครงการในอนาคต
นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 179.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 715.75% จากงวดเดียวกันปีก่อนกำไรอยู่ที่ 21.96 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 883.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 166.35 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส2/62 มีกำไรสุทธิ 64.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 624.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8.89 ล้านบาท และรายได้รวมเท่ากับ 357.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 343.19% จากงวดเดียวกันปีก่อนรายได้รวมเท่ากับ 80.68 ล้านบาท
ปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี เนื่องจาก บริษัทฯได้ทยอยรับรู้รายได้จากยอดโอนของโครงการคอนโดมิเนียม หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต อย่างต่อเนื่องทั้ง 2 เฟส ซึ่งในโครงการดังกล่าว ยังมียอดโอนที่จะต้องรับรู้ไปจนถึงปีหน้า
"ในครึ่งแรกของปีนี้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะทยอยรับรู้ยอดโอนจากโครงการเดิม และคาดว่าครึ่งปีหลังยังจะรักษาการเติบโตที่ดีได้ต่อเนื่อง เพราะสามารถทยอยรับรู้ยอดโอนต่อไปได้อีกถึงต้นปีหน้า บริษัทฯมั่นใจว่ากำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังมีการเติบโตได้ดี และจะช่วยสนับสนุนให้มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"
นายศศิพงษ์กล่าวต่อว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจปีนี้ มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แตะ1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากโครงการอสังหาฯที่เปิดในแต่ละหาด ได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติทั่วโลกอย่างดีเยี่ยม รวมถึงชาวไทยในตลาดกลางถึงบน ก็ให้การตอบรับดีเช่นกัน ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ทางเลือกของจังหวัดภูเก็ต ที่ตอบโจทย์ลูกค้าชาวต่างชาติ และชาวไทยได้อย่างลงตัว เปิดทางให้ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยไม่ต้องเช่า แต่สามารถตีกลับเป็นรายได้จากการเช่า ซึ่งถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่คุ้มค่า
นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯเตรียมแผนงานที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง โดยขณะนี้ได้ทยอยซื้อที่ดินไว้แล้วประมาณ 70-80 ไร่ เพื่อใช้พัฒนาโครงการระยะยาว และสร้างการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี