กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--โพลีพลัส พีอาร์
ถ้าพูดถึงอาหารจานหลักคู่โต๊ะอาหารที่เป็นวิถีของคนไทย เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงข้าวสวยร้อนๆ รับประทานคู่กับข้าวอร่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม ต้มยำ ผัดผักหรือกับข้าวสุดคลาสสิคอย่างไข่เจียว ในแต่ละวันต้องมีซักมื้อแหละน่าที่เราต้องได้กินข้าว แต่ทราบไหมว่าข้าวที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ คือข้าวชนิดใด และข้าวในประเทศไทยมีกี่ประเภท วันนี้เราจะชวนมารู้จักกับข้าวไทยให้มากขึ้น แต่งานนี้ไม่ต้องบุกนาฝ่าทุ่งที่ไหน เพราะเราคัดเมล็ดข้าวไทยสายพันธุ์ดีมาให้ชมกันแบบกันแบบชิลล์ๆ ใจกลางกรุงเทพมหานครที่ ไอคอนสยาม ในงาน "ทรัพย์แผ่นดิน ศิลป์สยาม : Thai Treasures" ซึ่งงานนี้จัดโดย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ข้าวตราฉัตร และ ไอคอนสยาม เพื่อเทิดพระเกียรติ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงให้ความสำคัญในเรื่องของ "ข้าว" และทรงทุ่มเทพระวรกายทำให้แผ่นดินไทยกลายเป็น "แผ่นดินทอง"
บูทข้าวตราฉัตร
เมื่อเข้ามาในงานแล้วเราก็จะได้พบกับนิทรรศการ, สินค้านวัตกรรมที่พัฒนามาจากข้าวและข้าวสายพันธุ์ต่างๆ จาก "ข้าวตราฉัตร" หนึ่งในแบรนด์สินค้าข้าวที่คนไทยภาคภูมิใจ เพราะผลิตโดยคนไทยและส่งออกไปขายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งข้าวไทยนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิดหลักๆ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ, ข้าวขาว, ข้าวเหนียว และ ข้าวเพื่อสุขภาพ
ซึ่งข้าวชนิดแรกได้แก่ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 หรือ ข้าวหอมมะลิ 105 เป็นสายพันธุ์ข้าวที่เราน่าจะคุ้นเคยกันมากที่สุดเพราะเป็นข้าวที่นิยมรับประทานกันทุกครัวเรือน มีเอกลักษณ์โดดเด่น คือ "หอม ยาว ขาว นุ่ม" มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย มีต้นกำเนิดมาจาก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ปลูกที่อื่นได้ไม่ดีเท่ากับปลูกในไทย ยามหุงสุกกลิ่นจะหอมชวนรับประทาน มีความนุ่มพอดี เมล็ดเรียวยาวสวยและเมื่อข้าวเย็นตัวลงจะไม่แข็งตัว มีความอร่อยกว่าข้าวชนิดอื่นๆ เหมาะสำหรับหุงเป็นข้าวสวยร้อนๆ รับประทานกับอาหารทอด ผัด แกงไทยต้นตำรับ เมนูฟิวชั่นต่างๆ แนวญี่ปุ่น แนวอิตาเลี่ยนหรือจะทำเมนูข้าวต้มก็เด็ด
ข้าวชนิดที่ 2 คือ ข้าวขาว ข้าวชนิดนี้ก็เป็นที่นิยมรับประทานไม่แพ้กัน มีหลายสายพันธุ์ ได้แก่ ข้าวปทุมธานี 1, ข้าวเหลืองอ่อน, ข้าวเหลืองปะทิว ลักษณะเด่นคือ หุงขึ้นหม้อ เมื่อหุงสุกจะนุ่ม คล้ายข้าวหอมมะลิทั่วไป เหมาะสำหรับหุงเป็นข้าวสวยรับประทานกับเมนูอาหารไทยขึ้นชื่อ อย่างแกงมัสมั่น ต้มยำกุ้ง และอื่นๆ หรือจะทำเป็นข้าวผัด จะได้ความอร่อยไปอีกแบบ
ส่วนข้าวชนิดที่ 3 ได้แก่ ข้าวเหนียว หลายคนหลงรักในความเหนียวนุ่ม ที่เอามาปั้นๆ นวดๆรับประทานคู่กับส้มตำก็อร่อยเริ่ด มีลักษณะเด่นคือความเหนียวนุ่มยึดเกาะกันของเมล็ดข้าวเมื่อหุงสุกแล้ว ปลูกมากทางภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทย มีหลายสายพันธุ์ ได้แก่ ข้าวเหนียวสันป่าตอง, ข้าวก่ำพะเยาหรือข้าวเหนียวดำ
และข้าวชนิดสุดท้ายที่สายเฮลท์ตี้ต้องรู้ นั่นคือ ข้าวเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีอยู่หลายชนิดเช่น
ข้าว กข 43, ข้าวหอมมะลิแดง, ข้าวหอมนิล, ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และ ข้าวกล้อง เป็นกลุ่มข้าวที่มีความโดดเด่นทางด้านโภชนาการ ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมือง และข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี และที่บอกว่าเป็นข้าวเพื่อสุขภาพเพราะมีค่าดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลจากข้าวที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน ร่างกายจะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลช้าทำให้อิ่มนานขึ้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำตาล เมื่อหุงสุกแล้วจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ รับประทานง่าย
พูดถึงข้าวแล้วจะขาดกับข้าวจานอร่อยได้อย่างไร ภายในงานนี้ยังมีกิจกรรมสาธิตการทำอาหารจาก ดารานางแบบและร้านอาหารชื่อดัง โดยเมนูแรกที่นำมาฝาก เป็นเมนูเด็ดจากสองสาวเพื่อนซี้ นิต้า -
อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์ และ เมย์ - ปาลิตา ธนาเมธปิยา ที่มาช่วยกันครีเอทเมนูพิซซ่าข้าว ส่วนวันที่ 10 และ 11 สิงหาคม สาวกเจแปนนิสเลิฟเว่อร์พลาดไม่ได้เพราะเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่น จากร้าน MUGENDAI และร้าน MUTEKI ปิดท้ายวันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ ด้วยเมนูแม่ลูกผูกพันธ์จากสองพี่น้องคนสวย แนท - อนิพรณ์ และนิต้า - อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์ ที่ควงคุณแม่มารังสรรค์เมนูสุดโปรดถ้าอยากรู้ว่าเป็นเมนูอะไรต้องแวะมาชม…
งาน "ทรัพย์แผ่นดิน ศิลป์สยาม: Thai Treasures" นอกจากจะมีนิทรรศการ, สินค้านวัตกรรมที่พัฒนามาจากข้าวและข้าวสายพันธุ์ต่างๆ แล้ว ที่บูทข้าวตราฉัตรยังมีเกมไขโหลกาชาปองให้ได้ร่วมสนุกและอิ่มบุญกับมูลนิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย เพียงร่วมบริจาคทุก 100 บาท จะได้ไขโหลกาชาปองลุ้นรับของรางวัลมากมาย นอกจากนี้ยังมีสาธิตการทอผ้าไหมสวยๆ ให้ได้ชมและช็อปกันอีกด้วยวันหยุดยาวนี้พาคุณแม่มาชิลล์กันได้ ตั้งแต่วันนี้ – 12 สิงหาคม 2562 ณ ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร
ฃฃ