กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN' ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล โชว์ผลงานครึ่งปีแรก ทำรายได้พุ่ง 870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% และมีกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.98% หลังส่งมอบลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ไปยังตลาดต่างประเทศ และการขายคอนเทนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 ทำได้ 446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% และมีกำไรสุทธิ 69.9 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังเติบโตตามแผน หลังเตรียมส่งมอบลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับทีวีดิจิทัลในประเทศ และรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมหนุนทั้งปีทำรายได้ขยายตัว 20%
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 (มกราคม-มิถุนายน 2562) บริษัทฯประสบความสำเร็จในการผลักดันการตลาด ส่งผลให้มีรายได้และกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกเติบโตได้ดี โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 698 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.98% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 139 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปินส์ในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดในประเทศไทยที่ลูกค้าสถานีทีวีดิจิทัลยังคงซื้อคอนเทนต์ซีรี่ย์ไปออกอากาศอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 (เมษายน-มิถุนายน 2562) บริษัทฯ ทำรายได้รวมอยู่ที่ 446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 26.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 352 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68.4 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสำคัญจากการได้รับผลกระทบภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นที่กดดันต่อกำไรสุทธิในไตรมาสนี้
"ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก JKN มีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตได้ดีตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำการตลาด รุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ไปจำหน่ายในประเทศกลุ่ม CLMV มากขึ้น และการเป็นตัวแทนจำหน่ายคอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 ในตลาดต่างประเทศ ซึ่ง JKN มีแผนขยายการตลาดและการจำหน่ายคอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทย ที่สามารถครอบคลุมไปถึงกลุ่มประเทศในเอเชียแปซิฟิก กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ยุโรปแคนาดา และละตินอเมริกา โดยเฉพาะในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าในครึ่งปีหลังจะสามารถปิดการขายคอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือได้มากขึ้น จาก ณ สิ้นไตรมาส 2 ที่มีอยู่ 470 ล้านบาท" คุณจักรพงษ์ กล่าว
สำหรับแผนดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนรุกทำตลาดเพื่อจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การตลาด'ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง' จากการร่วมออกบูทและจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างกระแสให้กับคอนเทนต์ที่นำไปจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งในปลายปีนี้ JKN มีแผนนำเสนอซีรี่ส์ละครไทย อีกกว่า 40 เรื่อง ในงาน MIPCOM 2019 ที่จัดขึ้นประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
ส่วนตลาดในประเทศ JKN มั่นใจว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากลูกค้ากลุ่มทีวีดิจิทัลมีแนวโน้มนำเงินมาลงทุนจัดซื้อคอนเทนต์แทนการผลิตรายการเอง เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับช่องเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากการผลิตรายการภายใต้แบรนด์ JKN-CNBC ที่ดำเนินงานภายใต้ บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหัวหอกสำคัญทางธุรกิจที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของ JKN ต่อจากนี้ หลังจากได้เริ่มออกอากาศผ่านช่อง GMM 25 ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเพิ่มคอนเทนต์จากแบรนด์ CNBC เพิ่มเติมอีก 5 รายการ เพื่อออกอากาศผ่านช่องทีวีดิจิทัล ได้แก่ ช่อง 5 ช่องทรูฟอร์ยู ช่องอัมรินทร์ทีวี เป็นต้น คาดว่าจะช่วยผลักดันเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้เติบไม่ต่ำกว่า 20% ได้ตามแผนที่วางไว้