กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะขาดแคลนน้ำในจังหวัดสุรินทร์ เร่งจัดหาและแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค แก่ประชาชนเข้าถึงทุกครัวเรือน พร้อมนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุนรถบรรทุกน้ำไปรับน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงมาสนับสนุนการใช้น้ำของโรงพยาบาลสุรินทร์ อีกทั้งสนับสนุนเครื่องจักรกล สาธารณภัยในการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ขุดร่องชักน้ำดิบเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปา เพื่อให้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากกรณีการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในเขตการจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุรินทร์ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำในเขตพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะโรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการขาดแคลนน้ำ จึงได้สั่งการกระทรวงมหาดไทย โดย ปภ. ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่ง ปภ.ได้ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ทั้งรถบรรทุกน้ำรถผลิตน้ำดื่ม เครื่องสูบน้ำ เครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลสูบน้ำ สนับสนุนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน โดยจัดหาและแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนเข้าถึงทุกครัวเรือน รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยในการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ขุดร่องชักน้ำดิบเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปา พร้อมจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งขุดเจาะบ่อบาดาลและเป่าล้างบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำใต้ดินมาใช้งาน ตลอดจนประสานการออกปฏิบัติการฝนหลวง สำหรับการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำของโรงพยาบาลสุรินทร์ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุรินทร์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ระดมรถบรรทุกน้ำไปรับน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงมาสนับสนุนโรงพยาบาลไม่น้อยกว่าวันละ 800,000 ลิตร ตามความต้องการใช้น้ำ นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้เร่งจัดการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดสุรินทร์ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค ในเขตเมืองสุรินทร์ รวมถึงกำหนดแนวทางการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมใช้น้ำอย่างประหยัด จะช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตการขาดน้ำไปได้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป