กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--สยามเวลเนสกรุ๊ป
นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจสปาแบบครบวงจร เปิดเผยว่า "SPA มีผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2562 มีรายได้รวมสุทธิในงวดนี้ 342.74 ล้านบาท โตขึ้น 26.36% จากรายได้ในไตรมาส 2 ปีก่อนที่มีรายได้ 271.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47.35 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย จากกำไรสุทธิ ไตรมาส 2 ปีก่อนที่มีกำไร 48.38 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการงวดหกเดือนสิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม 687.82 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 106.28 ล้านบาท โดยรายได้เพิ่มขึ้น 24.59% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากการให้บริการธุรกิจสปาคิดเป็น 91 % ของรายได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือมา จากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและอื่นๆ ทั้งนี้ในผลประกอบการไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานทางบัญชีที่ทำให้รายได้ค่าแฟรนไชส์ลดลงเมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วและค่าใช้จ่ายสูงขึ้น อาทิ สำรองผลประโยชน์พนักงาน ที่รับรู้ทั้งจำนวนเนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
ในไตรมาส 2 รายได้ของบริษัทฯ ยังโตได้ดี โดยแบ่งเป็น (1) ยอดขายจากสาขาเดิม (SSG) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 (2) ยอดขายจากการขยายสาขา (Expansion) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 (3) ยอดขายจากธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 (4) ยอดขายจากธุรกิจทำเล็บและต่อขนตา CHABA เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 แต่ทั้งนี้ บริษัทฯต้องรับภาระต้นทุนของสาขาใหม่ที่เปิดช่วงปลายปี 2561และต้นปี 2562 รวมถึงโปรเจกต์ใหม่ ซึ่งตามปกติรายได้ของสาขาใหม่จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนเพื่อให้ EBITDA เป็นบวก ส่วนโปรเจกต์ใหม่ต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์และการรับรู้ของลูกค้า รวมถึงสาขาที่ปิดปรับปรุง อย่างไรก็ตามหากมีการปรับปรุงผลกระทบจากรายได้ค่า upfront fee ของแฟรนไชส์, การปิด renovate สาขาพัทยากลาง รวมถึง one-time expense ต่างๆที่ระบุข้างต้น จะส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 11 ล้านบาทและอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการสาขาใหม่ 5 สาขาในประเทศ คือ Let's Relax The Market Bangkok, Let's Relax Ginza Thonglor, Let's Relax Ibis Styles Huaykwang, Stretch me 101 True Digital Park และ Stretch me Ginza Thonglor และสำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงเน้นกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขายต่อลูกค้าสำหรับบริการสปาทั้ง 3 แบรนด์ รวมถึงธุรกิจใหม่ เช่น Stretch me และ CHABA โดยการขยายฐานลูกค้าทั้งชาวต่างชาติและคนไทย ผลิตภัณฑ์สปา รวมถึงมุ่งเน้นขยายสาขาในประเทศ ในหัวเมืองท่องเที่ยว โดยทั้งปี บริษัทฯ คาดว่ารายได้ปี 2562 จะโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าจะโต อย่างน้อย 20% จากยอดขายของปี 2561 ที่มีรายได้ 1,152 ล้านบาท
บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ "SPA" ดำเนินธุรกิจสปาทั้งหมด 62 สาขาแบ่งเป็น "ระรินจินดา เวลเนส สปา" สปาระดับ 5 ดาว จำนวน 3 สาขา "เล็ทส์ รีแลกซ์" สปาระดับ 4 ดาว จำนวน 44 สาขา (ในประเทศ 36 สาขาและต่างประเทศ 8 สาขา) "บ้านสวนมาสสาจ" สปาระดับ 3 ดาว จำนวน 10 สาขา "Stretch me by Let's Relax" สตูดิโอยืดคลายกล้ามเนื้อเพื่อสุขภาพ จำนวน 4 สาขา และ "Face Care by Let's Relax" ศูนย์ปรนนิบัติผิวหน้า จำนวน 1 สาขา นอกจากนั้นยังดำเนินธุรกิจรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ "ระรินจินดา เวลเนสสปา รีสอร์ท" และร้านอาหาร "Deck1" ที่จังหวัดเชียงใหม่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์สปา ธุรกิจโรงเรียนสอนนวดแผนไทยและสปาสยามเวลเนส ธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์สปาจากต่างประเทศ และล่าสุดลงทุน 76% ในธุรกิจทำเล็บและต่อขนตา Chaba Nail & Spa ของบริษัท ชบา เอลลิแกนซ์ จำกัด โดยเริ่มรับรู้รายได้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 โดยปัจจุบัน Chaba มี 11 สาขาทั่วกรุงเทพฯ