กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--เอ็มที มัลติมีเดีย
'บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT' โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 ทำรายได้รวม 1,255.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 132.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น14.25% แม้ตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ดันผลงานครึ่งปีแรกทำนิวไฮ ส่วนแผนงานครึ่งปีหลัง มุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรที่ 80-90% ของกำลังการผลิตและอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ย 25-27% ตามแผน มั่นใจสิ้นปีเติบโตตามเป้าหมาย
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ 'ตราเพชร' เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส2/62 (เมษายน-มิถุนายน 2562) บริษัทฯ สามารถผลักดันการเติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยทำรายได้รวม 1,255.29 ล้านบาท เติบโต 11.30%เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,127.82 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 132.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.25% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยการเติบโตมาจากความสำเร็จการทำกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด 'สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง' ที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์สินค้า'ตราเพชร' และสะท้อนถึงศักยภาพการทำตลาดที่มีความพร้อมของสินค้าที่หลากหลายสามารถสร้างบ้านได้ทั้งหลัง ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างภายใต้ แบรนด์ 'ตราเพชร' เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าผ่านกลุ่มลูกค้าโครงการและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ เป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น ขณะที่ตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียนและช่องทางร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อยมีการเติบโตที่ดีเป็นที่น่าพอใจ ขณะเดียวกัน DRT ยังสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่มีประสิทธิภาพ จากการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย 80-90% ส่งผลดีต่อการรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย 25-27% ได้ตามแผน และสะท้อนถึงตัวเลขกำไรสุทธิที่ยังรักษาอัตราการเติบโตที่ดี แม้ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองผลประโยชน์ของพนักงานเพิ่มขึ้นตามกฎหมายแรงงานใหม่ก็ตาม
จากการดำเนินงานไตรมาส 2/62 ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2562) ทำสถิตินิวไฮ จากตัวเลขยอดขายรวมทั้งสิ้น 2,650.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 343.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.59% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และหากไม่รวมรายการพิเศษ (กำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์และหักการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 316.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
"เราพอใจในผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 และครึ่งปีแรกของปีนี้ จากความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่กระตุ้นผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้าตราเพชรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายทุกช่องทางการจัดจำหน่ายเติบโตอย่างโดดเด่น และความมุ่งมั่นในการบริหารต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ส่งผลให้การดำเนินงานของเราทำสถิติเติบโตสูงสุด แม้ตลาดวัสดุก่อสร้างจะอยู่ในภาวะทรงตัว" นายสาธิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่าแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีเป้าหมายรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรที่ระดับ 80-90% พร้อมบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตต่อหน่วยให้มีประสิทธิภาพ เร่งขยายตลาดด้วยจุดเด่นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ บริหารจัดการด้าน Product Mixเพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพื่อผลักดันภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตตามแผนงานที่วางไว้
สำหรับส่วนขยายกำลังการผลิตสายการผลิต NT-11 ที่โรงงานจังหวัดสระบุรี โดยจะใช้งบลงทุนจากการกู้ยืมเงินและจากกระแสเงินสดบางส่วนประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์และบอร์ดอีก 55,000 ตันต่อปีนั้น ปัจจุบันมีความคืบหน้าอย่างมาก คาดว่าจะสามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตสินค้าในเชิงพาณิชย์ได้ปลายปี 2563 ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นด้านการผลิตและเพิ่มโอกาสขายสินค้าเพิ่มขึ้น
เกี่ยวกับ บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร
บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ "DRT" ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า "ตราเพชร" มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 34 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน ISO9001:2015, ISO14001:2015 จากสถาบัน Lloyd's Register Quality Assurance (LRQA) รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม(มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์คุณภาพไทยแลนด์หรือ Thailand Trusted Mark (TTM) จากสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้วิสัยทัศน์ "เป็นทางเลือกที่ดีกว่าด้านวัสดุก่อสร้างและบริการ"