กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--ท่าเรือราชาเฟอร์รี่
บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP เตรียมปรับระบบการให้บริการใหม่ กระตุ้นครึ่งปีหลังรายได้กระเตื้อง หลังผลประกอบการครึ่งปีแรก 2562 รายได้รวมอยู่ที่ 378.71 ล้านบาท เหตุเศรษฐกิจซึม นักท่องเที่ยวชะลอตัว
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางแผนปรับระบบการให้บริการใหม่ เพื่อรองรับโลกยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในปี 2563 โดยนำร่องทดลองใช้ตู้จำหน่ายตั๋วออนไลน์ หรือ RP BOX ที่สำนักงานสาขาข้าวสารและหน้าท่าเรือดอนสัก เพื่อเพิ่มช่องทางเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
ขณะเดียวกันก็ลงทุนปรับระบบการจองออนไลน์ใหม่ ทั้งทางเว็บไซด์และระบบ GO ORCA เพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น คาดว่าเมื่อระบบใหม่สมบูรณ์จะช่วยเพิ่มรายได้จากการขายผ่านระบบออนไลน์ได้ไม่น้อยกว่า 40% จากยอดขายปัจจุบัน
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2562 รายได้รวมอยู่ที่ 184.19 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 192.40 ล้านบาท หรือลดลง 4.26% ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2562 รายได้รวมอยู่ที่ 378.71 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 383.90 ล้านบาท หรือ 1.35% เนื่องจากภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศชะลอตัวลง ประกอบบริษัทมีแผนขยายการลงทุนใหม่หลายด้าน
"รายได้รวมครึ่งปีแรก 2562 ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่าจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุมที่มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและภาคใต้ตอนบน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชะลอตัวลง แต่จากสถิติจำนวนลูกค้าที่จองตั๋วล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์เข้ามาพบว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
นายอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังปรับระบบการให้บริการใหม่สมบูรณ์ และแผนขยายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอยู่ออกมาชัดเจนแล้ว จะช่วยผลักดันให้รายได้รวมทั้งปีนี้พลิกฟื้นกลับมาดีขึ้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน หรือเติบโตได้ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารยังได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน บริษัท จัดหางาน อาร์พี จ็อบ จำกัด (RP Job) จาก 1 ล้านบาท เป็น 3 ล้านบาท เพื่อขยายการให้บริการด้านการจัดหาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในอนาคตยังมีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานจากประเทศเมียนมา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี