กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--อมตะ
“อมตะ” ประเดิมปี 51 ลงนามเซ็นสัญญาเปิด กลุ่มทุน ริโก้ จากญี่ปุ่น เข้าจองพื้นที่อมตะซิตี้ 76 ไร่ ตั้งโรงงานผลิตเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ขาวดำ แห่งใหม่ วงเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท เตรียมก่อสร้างโรงงานสิงหาคมนี้ ผลิตเชิงพาณิชย์ได้ เดือนกันยายนปี 2552 มั่นใจเศรษฐกิจไทย ภายใต้รัฐบาลใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจหลายแห่งเติบโต มุ่งเดินหน้าผลิตเครื่องใช้สำนักงานตอบสนองตอบตลาดเอเซีย
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลัง การลงนามในสัญญาจองพื้นที่ของบริษัท ริโก้ จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น ว่า บริษัทริโก้ ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์ เครื่องมืออิเลคทรอนิกส์ที่ใช้ในสำนักงานแห่งใหม่ในไทย ที่นิคมอมตะซิตี้ ในพื้นที่ 76 ไร่ หรือ121,000 ตารางเมตร โดยมีเป้าหมายการลงทุนในวงเงินขั้นแรก 10,000 ล้านเยน หรือคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท ดาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ในเดือนสิงหาคม ปี 2551 และเริ่มผลิตสินค้าในเชิงพาณิชย์ได้ ในเดือนกันยายน 2552
สาเหตุที่ใช้ไทยเป็นเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ เนื่องจากมั่นใจว่าด้วยบรรยากาศการลงทุนของไทยมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับมีโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เอื้ออำนวยในหลายด้าน ทั้งในส่วนของ ท่าเรือแหลมฉบังรองรับ และ สนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นจุดใกล้เคียงกับนิคมอมตะ เป็นช่องทางที่สะดวกต่อการขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศได้ในหลายภูมิภาค โดยกลุ่มสินค้าที่จะมีการลงทุนผลิตในระยะแรก จะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ขาวดำ ด้วยกำลังผลิต 20,000 เครื่องต่อเดือน อย่างไรก็ตามคาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทจะสามารถขยายกำลังการผลิตเต็มที่ 140,000 เครื่องต่อเดือน
นายวิบูลย์กล่าวว่า ยอดขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนของนิคมอมตะนคร และอมตะซิตี้ ในปีนี้ มั่นใจว่าจะขยายตัวเพิ่มจากปีทีผ่านมาอีก 10-15% โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ในการพัฒนาพื้นที่ที่เหลืออยู่อีก 4,000 ไร่ เพื่อรองรับนักลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ บริษัทมีกลุ่มนักลงทุนใหม่ที่อยู่ในขั้นตอนการเจรจา เพื่อเข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมทั้งสองแห่ง อีก 10 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนในยุโรป และย่านเอเชีย คาดว่าจะตกลงได้เป็นที่แน่นอนในเร็วๆนี้ เพราะส่วนหนึ่งนักลงทุนมีความมั่นใจในทิศทางของเศรษฐกิจไทย ภายหลังจากที่ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทยส่วนใหญ่ ยังรอฟังนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ที่มีการแถลงออกมาในวันที่ 18กุมภาพันธ์ ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางเศรษฐกิจว่าจะมีแนวทางออกมาอย่างไร โดยเฉพาะในการกำหนดแผนการขยายการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งรัฐบาลต้องมีการวางกรอบที่ชัดเจนทั้งในด้านงบประมาณ และโครงการเมกกะโปรเจ็กต์ ที่สามารถรองรับการเติบโตของภาคธุรกิจได้อย่างแท้จริง
นายทากาชิ นาคามูระ รองประธานบริหาร บริษัท ริโก้ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนการลงทุนที่จะเข้ามาใช้ชิ้นส่วนในประเทศในระยะแรก อยู่ที่ 50% หลังจากนั้นจะเพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศอีก ประมาณ 60% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งต้องยอมรับว่าการลงทุนผลิตเครื่องใช้อุปกรณ์สำนักงานเหล่านี้มีความละเอียดอ่อนสูง และมีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างสูง แต่แน่นอนว่าในอนาคต โรงงานแห่งใหม่ที่ก่อตั้ง ในนิคมอมตะซิตี้นี้จะเป็นศูนย์กลางการผลิตและชิ้นส่วนอุปกรณ์ รวมทั้งเป็นแหล่งรวมบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในภูมิภาคเอเชีย โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีการจำหน่ายทั้งในประเทศ เน้นไปที่พื้นที่ในต่างจังหวัดมากขึ้น และ ส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก ทั้งเอเชีย ยุโรป และญี่ปุ่น
แผนการลงทุนครั้งนี้ เล็งเห็นว่าภูมิภาคตลาดเอเชียเริ่มมีการขยายตัวมากขึ้นในการเติบโตของภาคธุรกิจ และสามารถลดการพึ่งพานำเข้าสินค้าจากจีนได้ ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นอีกแหล่งหนึ่งในการกระจายสินค้ากลุ่มนี้ออกไปอย่างแพร่หลายในอนาคต