กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--พาร์ทูโกล
NCLเปิดงบQ2/62 มีกำไรสุทธิ12.69 ล้านบาท โตแรง 371% ดันงวด 6 เดือนพลิกมีกำไร 4.57 ล้านบาท โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 622.86 ล้านบาท ขยายตัว 11.31% ธุรกิจให้บริการขนส่งโตโดดเด่นหลัง 5 บริษัท ในสหรัฐอเมริกา เวียดนาม อินโดนีเซีย เมืองชิงเต่าและเมืองนิงโบในประเทศจีน เริ่มออกฤทธิ์ ประกอบกับธุรกิจจำหน่ายน้ำยาล้างไตและเวชภัณฑ์ผ่านบริษัทย่อย "เกรซ วอเทอร์ เมด" ขยายตลาดเพิ่มดันยอดขายพุ่ง
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด(มหาชน)หรือ NCL ผู้ให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์ครบวงจร (Logistics Solution Provider) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯงวดไตรมาส 2/2562 มีรายได้รวม 336.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.64% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 290.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้รวม 622.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.31% และพลิกมีกำไรสุทธิ 4.57 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้ามีผลขาดทุนสุทธิ 1.53 ล้านบาท สาเหตุทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากธุรกิจให้บริการขนส่งซึ่งเป็นธุรกิจหลัก มีรายได้ 605.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 71.11 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 14.59% รับผลดีจากบริษัทย่อยซึ่งได้ทยอยเปิดให้ดำเนินการจำนวน 5 บริษัท ในประเทศสหรัฐอเมริกา เวียดนาม อินโดนีเซีย เมืองชิงเต่า และเมืองนิงโบในประเทศจีน
นอกจากนี้ บริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด(GWM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำยาล้างไตและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ พบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้น ภายหลังได้ทำการตลาดจนเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการขายในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ 57.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.20 ล้านบาท หรือ 84.10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจะเป็นปีแรกที่รับรู้ผลกำไรจากGWM เต็มปี
"ธุรกิจให้บริการขนส่งเริ่มเห็นผลดีจากการเข้าไปเปิดบริษัทฯ ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายเครื่องเวชภัณฑ์ สามารถสร้างยอดขายได้ดี ส่งผลให้กำไรขั้นต้นสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 135.59 ล้านบาท เติบโตถึง 23.96% แต่ยอมรับว่าบริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 24.75 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายของบริษัทย่อย ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นและขยายงาน ข้อสำคัญผลจากการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าชดเชยเพิ่มเติมกรณีนายจ้างเลิกจ้าง สำหรับลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไปให้มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน หากไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ บริษัทฯจะมีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ จำนวน 6.20 ล้านบาท หรือเติบโต 505.23%" นายกิตติกล่าว