กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--เวิร์คลิ้งค์ ดาเอเจนซี่
APCO คาดทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น ลูกค้าเชื่อมั่นผลิตภัณฑ์สั่งซื้อซ้ำ พร้อมจัดโปรโมชั่นต่อเนื่อง เดินหน้าปรับกลยุทธ์ขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ด้านความร่วมมือพันธมิตรจีนการตอบรับดี ผุดช่องทางออนไลน์เพิ่ม ขณะที่งบครึ่งปีแรกรายได้ 140.42 ล้านบาท กำไร 26.96 ล้านบาท
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยมีแนวโน้มการเติบโตจากฐานลูกค้าเดิมที่มีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของบริษัท และมีการสั่งซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีกลยุทธ์การทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ประกอบการการบรรยายหัวข้อ "นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด" เพื่อสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มเป้าหมายใหม่
นอกจากนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ขยายช่องทางการจำหน่าย โดยมีแผนนำผลิตภัณฑ์เข้าจำหน่ายผ่านช่องทาง Shopping Online ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงเดือนกันยายนนี้ ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการเจราจากับพันธมิตร เตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทาง Modern Trade และ Direct Sale พร้อมทำการตลาดด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามทั้งในและต่างประเทศ
ขณะที่การร่วมมือกับพันธมิตรประเทศจีน หลังจากการทดสอบผลิตภัณฑ์มาระยะหนึ่งแล้ว มีกระแสการตอบรับที่ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองขายผลิตภัณฑ์ในช่องทางออนไลน์
"แม้ว่าภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงามมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง แต่บริษัทยังคงรักษารายได้จากฐานลูกค้าเดิม และสร้างการรับรู้เพื่อขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการร่วมมือกับพันธมิตรที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและขยายช่องทางจัดจำหน่าย เชื่อว่าจะรักษาอัตราการเติบโตในปีนี้ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว" ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 66.33 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 82.42 ล้านบาท จำนวน 16.09 ล้านบาท หรือลดลง 19.52% และมีกำไรสุทธิ 11.62 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 18.70 ล้านบาท จำนวน 7.08 ล้านบาท หรือลดลง 37.86%
ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 143.72 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 178.62 ล้านบาท จำนวน 34.90 ล้านบาท หรือลดลง 19.54% และมีกำไรสุทธิ 26.96 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 43.84 ล้านบาท จำนวน 16.88 ล้านบาท หรือลดลง 38.51%
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากกำลังซื้อและการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลงส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชะลอตัว ประกอบกับมีการแก้ไขอัตราค่าชดเชยพนักงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ส่งผลให้มีการบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่ม