กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เปิดเวทีสัมมนา "โครงการเตรียมความพร้อมการพัฒนาสมรรถนะความสามารถด้านดิจิทัล" ยกระดับข้าราชการ และบุคลากรท้องถิ่นก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการเสริมสมรรถนะด้านดิจิทัล (Digital Literacy) ต่อยอดนโยบายรัฐบาลด้วยการเป็นรัฐบาลดิจิทัล
หลังจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริม พัฒนา บุคลากรท้องถิ่นทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 160,000 คน จาก อปท. 7,852 แห่ง และเพื่อเป็นการตอบรับนโยบายรัฐบาลที่ก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 จึงเห็นควรให้เร่งเสริมสร้าง และพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลก่อนเข้ารับการประเมินสมรรถนะจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำร่องบุคลากรจาก อบจ.สุพรรณบุรี จำนวน 200 ชีวิต ซึ่งนับเป็นการประเดิมการประเมินสมรรถะด้านดิจิทัลกับบุคคลากรท้องถิ่นพื้นที่ภาคกลางเป็นแห่งแรก
นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ บอกว่าการประเมินบุคลากรภาครัฐในจังหวัดแพร่ไปก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2561 สามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพด้านดิจิทัลให้กับภาครัฐในเขตพื้นที่ภาคเหนือได้แล้วกว่า 500 คน ความร่วมมือในครั้งนี้จึงนับเป็นการต่อยอดผลิตบุคลากรภาครัฐที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้บริการประชาชน รองรับนโยบายรัฐบาล ในการก้าวเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ยืนยันพร้อมสนับสนุนบุคลากรเพื่อเข้ารับการประเมินจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเป็นการยกระดับความสามารถด้านดิจิทัลให้กับบุคลากรท้องถิ่น ให้สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเที่ยงตรง น่าเชื่อถือ และยังเป็นการกระตุ้นให้มีการพัฒนาตัวเอง ซึ่งปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรีได้ใช้เทคโนโลยีรองรับการให้บริการประชาชนมากขึ้น เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึงภาครัฐ
นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ได้บูรณาการความร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้า มีแนวคิดพัฒนาเมืองสุพรรณบุรีให้เป็นสมาร์ทซิตี้ (Smart City) ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้บริหารจัดการทั้งการท่องเที่ยว อาชีพ และอื่นๆ อีกหลายด้าน รองรับการแข่งขันภาคธุรกิจในอนาคต โดยนำร่องที่บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ บึงน้ำธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของเมืองสุพรรณบุรีเป็นที่แรก ด้วยการใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว แนะนำร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงที่พัก ที่สำคัญคือการใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้ข้อมูลเรื่องเส้นทาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ