กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--สยามนนท์ สหคลินิก
ปัญหาฝุ่นควันและมลพิษในสังคมเมืองเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวถูกทำร้าย การที่เราจะมีผิวแข็งแรงได้นั้น ผิวชั้นนอกของเราต้องมีความหนาในระดับหนึ่ง ความหนาของผิวจะช่วยปกป้องจากมลภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี รังสียูวี เป็นต้น แต่หากผิวชั้นนอกเราบางลง จะทำให้ไม่สามารถปกป้องได้ดีพอ ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีอาการแพ้ต่อมลภาวะต่าง ๆ ง่าย อักเสบง่าย สิวขึ้นง่าย และผิวดำคล้ำต่อแดดง่าย
ปัจจัยภายในที่ผิวของเราบางลงคือ "ความชรา" หรือ Aging เป็นภาวะที่มีการสะสมของความเสื่อมต่าง ๆ ในร่างกาย การที่เรามีอายุมากขึ้น ทำให้การแบ่งตัวของเซลล์นั้นไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้ผิวบางลง รวมทั้งทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง โดยแรกเกิดเราจะมีส่วนประกอบของน้ำในร่างกายสูงถึง 75% และจะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นความชุ่มชื้นของผิวก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผิวแข็งแรง
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกต่าง ๆ โดยสามารถสรุป 6 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ภาวะอนุมูลอิสระเกินสมดุล ภาวะน้ำตาลเกาะโปรตีน ภาวะการอักเสบเรื้อรัง ภาวะพิษหรือของเสียสะสมในร่างกาย ภาวะร่างกายเป็นกรด และภาวะเครียด เนื่องจากเราไม่สามารถหยุดปัจจัยภายในหรือความชราได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือ ลดปัจจัยภายนอกที่เร่งให้ผิวบางเร็วกว่าวัย โดยการปรับพฤติกรรมการดูแลผิว ซึ่งจะขอนำเสนอ 8 วิธีที่จะทำให้เกิดสภาวะเหมาะสมกับผิว ชะลอความชราผิว และให้ผิวแข็งแรง สู้มลภาวะได้
1. หลีกเลี่ยงการแกะ เกา ขัดถูใบหน้า พฤติกรรมเหล่านี้เป็นการผลัดเซลล์ผิวออก ทำให้เกิดผิวหน้าบางลง ไม่แข็งแรง นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดแผลเล็กที่ใบหน้า การเกิดแผลที่ผิวจะทำให้สูญเสียหน้าที่ปกป้องผิวไป ร่างกายจะต้องทำการซ่อมแซมให้ผิวกลับมาปกติเช่นเดิม จึงมีกระบวนการอักเสบเกิดขึ้น (Inflammation) หากมีการขัดถูผิวบ่อยจนเกินไป จะเกิดการอักเสบที่สะสมและเรื้อรัง เป็นสาเหตุของผิวที่ชราลงและไม่แข็งแรงอีกเช่นกัน
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ที่ถูกต้อง โดยทั่วไป pH ของผิวจะอยู่ที่ 4.70 - 5.75 ซึ่งมีความเป็นกรดอ่อน ๆ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี pH เป็นกลางหรือค่อนไปทางกรดอ่อนที่แนะนำ จะทำให้สามารถคงสภาพผิวไม่ให้ถูกทำลายได้ หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นด่าง จะทำให้ผิวสูญเสียเกราะป้องกันตามธรรมชาติไป ทำให้สูญเสียน้ำได้ง่าย เกิดผิวบอบบาง และแพ้ง่าย
3. ใช้น้ำเย็นล้างหน้า จริงอยู่ที่การใช้ผ้าอุ่นประคบหน้าจะทำให้ผิวหน้าผ่อนคลาย และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด แต่ไม่ควรทำบ่อย เนื่องจากสามารถกระตุ้นการอักเสบได้ การใช้น้ำเย็นหรือน้ำที่อุณหภูมิห้องล้างหน้า จะช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ กระชับรูขุมขน และลดความมันของใบหน้าได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้น้ำเย็นหรือน้ำที่อุณหภูมิห้องล้างหน้าเป็นประจำมากกว่าน้ำอุ่น
4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระนั้นทำร้ายผิวโดยตรง ทำให้ผิวไม่แข็งแรง และเกิดปัญหาผิวตามมา การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถช่วยป้องกันผิวที่จะถูกทำลายได้ ทำให้ผิวยังคงแข็งแรง และสู้มลภาวะต่าง ๆ ได้
5. ลดความเครียด ความเครียดทั้งทางร่างกาย เช่น การออกกำลังกายที่มากเกินไป การอดนอน และความเครียดทางจิตใจต่าง ๆ ล้วนส่งผลเสียต่อทุกระบบในร่างกาย และหนึ่งในนั้นคือผิวหนัง ความเครียดต่าง ๆ เหล่านี้ จะทำให้เกิดภาวะอนุมูลอิสระเกินสมดุล และผิวไม่แข็งแรงตามมา ข้อแนะนำคือ ใช้ชีวิตให้ผ่อนคลาย หาเวลาพักผ่อนบ้าง ออกกำลังกายให้เหมาะสม นอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน
6. อาหารและอาหารเสริมต่าง ๆ You are what you eat ผิวพรรณที่ดี ต้องเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วยกับ 8 วิธีง่าย ๆ ในการเลือกรับประทานอาหาร 1. Eat Less, Live Longer (จำกัดแคลอรี่ของอาหารให้น้อยกว่า 30% ต่อวันของที่ร่างกายต้องการ) 2. Sugar is Toxin (น้ำตาลทรายคือยาพิษ ร่างกายไม่ได้ประโยชน์จากการใส่น้ำตาลทรายในอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงยังมีโทษอีกต่างหาก) 3. Grains over Rice (พยายามรับประทานธัญพืชมากกว่าข้าว เนื่องจากมีคุณประโยชน์มากกว่า) 4. Vegetable and Fruit in Moderate (รับประทานผักและผลไม้พอประมาณ) 5. Avoid Fried Food and Animal Fat (หลีกเลี่ยงอาหารทอดและไขมันจากสัตว์) 6. Choose Olive oil or Rice Bran Oil (เลือกน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าวในการปรุงอาหาร) 7. Drink more Mineral Water, Avoid Acid-form Water (พยายามดื่มน้ำแร่ หลีกเลี่ยงน้ำที่ทำให้เกิดภาวะกรดในร่างกาย เช่น น้ำ RO (Reverse Osmosis) น้ำอัดลม เป็นต้น) 8. Take Supplements (ทานวิตามินหรืออาหารเสริมตามสมควร)
7. หลีกเลี่ยงมลภาวะต่าง ๆ ถึงแม้ว่าผิวพรรณเราจะแข็งแรงพร้อมสู้มลภาวะแล้ว แต่การหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวต้องเจอมลภาวะมากจนเกินไปก็เป็นสิ่งสำคัญ มลภาวะที่ควรหลีกเลี่ยงคือ แสงแดด อากาศเสีย น้ำเสีย สารพิษต่าง ๆ เช่น ครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน บุหรี่ และสุรา เป็นต้น
8. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เนื่องจากรังสียูวี หรือแสงแดดนั้น เป็นมลภาวะที่เราต้องเจอในทุกวันและหลีกเลี่ยงได้ยาก การปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดจึงจำเป็น โดยแนะนำที่ SPF30 PA+++ ขึ้นไป โดยแดดที่ควรหลีกเลี่ยงคือสิบโมงเช้าถึงบ่ายสอง และควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพราะหลัง 2 ชั่วโมงเป็นต้นไป ครีมการแดดส่วนมากจะมีประสิทธิภาพที่ลดลง
การดูแลผิวให้แข็งแรงนั้น จำเป็นต้องทำทั้งจากภายในและภายนอกตามที่เสนอไปแล้ว การบำรุงผิวจากภายนอกด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เหมาะสม จะช่วยทำให้ผิวของเราแข็งแรง พร้อมสู้มลภาวะได้เช่นกัน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว น้ำตบนิวเคลียส มิราเคิล เอสเซนส์ (NUCLEUS – Miracle Essence) ด้วยคุณสมบัติที่อ่อนโยนแบบไร้แอลกอฮอลล์ น้ำหอม และพาราเบน ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น แข็งแรง รูขุมขนแลดูเล็กลง รวมถึงช่วยลดสิวผด สิวเสี้ยน ให้ผิวกระจ่างใส หาซื้อได้ที่ Lazada และ Shopee เพจ https://www.facebook.com/nucleusthailand, www.siamnon.com, Line Official : @siamnon, Instagram : nucleusthailand
สนับสนุนบทความโดย นพ.ภูมิ วัฒนวนาพงษ์
สยามนนท์ สหคลินิก ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาบางบัวทอง และสาขาพระนั่งเกล้า
ผู้ให้บริการด้านเวชกรรมความงาม เวชศาสตร์ชะลอวัย ศัลยกรรมตกแต่ง และทันตกรรมครบวงจร