กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์
รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ เปิดศูนย์ให้คำแนะนำและติดตามผลจากการใช้กัญชาในผู้ป่วยจิตเวชที่อยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่างคือนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ หลังพบผู้ป่วยทางจิตที่เกิดจากกัญชาร้อยละ 70 มีประวัติใช้เพื่อความบันเทิง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ที่เหลือเป็นผู้ป่วยที่ใช้น้ำมันกัญชารักษาโรค เตรียมขยายผลเป็นศูนย์วิจัยกัญชาระดับเขตสุขภาพ สร้างความปลอดภัยประชาชนเต็มที่ พร้อมเดินหน้าการลดความแออัดผู้ป่วย โดยการใช้ระบบเทเลเมดิซีน เชื่อมโยงเรือนจำ รพ.ชุมชน ผู้ป่วยพบแพทย์เฉพะทาง ตรวจรักษาผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ รับยาที่รพ.ใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางไปที่รพ.จิตเวชฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 9 และคณะผู้บริหารระดับสูง เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล (รพ.)จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามนโยบายการดูแลจัดบริการตรวจรักษาผู้ป่วยทางจิตอย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย เพื่อลดความแออัด และลดเวลารอคอย โดยได้เปิดศูนย์ให้คำแนะนำและติดตามผลจากการใช้กัญชาในผู้ป่วยจิตเวชของรพ.จิตเวชนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ที่กลุ่มงานเภสัชกรรม แผนกผู้ป่วยนอกด้วย
นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมา ได้นำเสนอบรรยายสรุปผลการดำเนินการของรพ.จิตเวชฯซึ่งเป็นรพ.เฉพาะทางรักษาผู้ป่วยที่เจ็บป่วยทางจิตที่มีอาการรุนแรง ยุ่งยากซับซ้อน ที่ส่งตัวมาจากรพ.เครือข่ายที่อยู่ในเขตสุขภาพที่9 หรือเขตนครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัดอีสานตอนล่างคือนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ มีผู้ป่วยเฉลี่ยวันละ 320 คน โดยได้ใช้เทคโนโลยีคือระบบคิวอัตโนมัติ เพื่อช่วยยืนยันเวลาที่ผู้ป่วยจะได้พบแพทย์ตามกำหนด และลดขั้นตอนการให้บริการให้สั้นลงจาก 12 ขั้นตอน เหลือเพียง 6 ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ผลดำเนินการในรอบ 7 เดือน พบว่าด้านจำนวนผู้ป่วยที่ใช้บริการรายวันไม่เปลี่ยนแปลง ระยะเวลาในการพบแพทย์ลดจากเดิม 70 นาที เหลือเพียง 30 นาที ในระหว่างที่รอพบแพทย์ รพ.ได้จัดกิจกรรมดูแลฟื้นฟูทางด้านจิตใจและสังคมต่างๆที่จำเป็นให้ผู้ป่วยด้วย เป็นการใช้เวลารอคอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยและญาติไปในตัว ผู้ป่วยกลับบ้านได้เร็ว ทำให้ความพึงพอใจสูงขึ้นจากเดิมร้อยละ 96 เพิ่มเป็นร้อยละ98
นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ2563 นี้ รพ.จิตเวชได้เตรียมใช้เทคโนโลยีเพิ่ม คือระบบเทเลเมดิซีน ( Telemedicine) มาช่วยลดความแออัด และอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยจิตเวชหรือผู้ที่มีปัญหาทางจิตและมีอาการรุนแรงได้พบแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบนี้มีความชัดเจนมากทั้งภาพและเสียง ผู้ป่วยจะเดินทางไปรพ.จิตเวชฯเฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น ในระยะแรกจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายเรือนจำในพื้นที่นครชัยบุรินทร์ รพ.ชุมชนกว่า 80 แห่ง รวมทั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความพร้อม โดยผู้ป่วยสามารถรับยารักษาที่รพ.ชุมชนใกล้บ้านได้เลย ส่วนในระยะต่อไปจะขยายลงสู่รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือรพ.สต.ที่มีความพร้อม เพื่อดูแลผู้ป่วยในระดับชุมชน หมู่บ้าน ทั้งรายเก่าที่อยู่ในระบบการรักษาต่อเนื่อง และรายใหม่ที่ค้นหาเพิ่มด้วย
นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวต่อไปว่า ในส่วนมาตรการรองรับนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์นั้น ขณะนี้แม้ว่ายังไม่มีการใช้น้ำมันกัญชารักษาผู้ป่วยจิตเวชก็ตาม แต่จะต้องวางแผนความพร้อมเพื่ออนาคต โดยเฉพาะทางด้านวิชาการในระดับพื้นที่เพื่อสร้างความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดแก่ผู้ป่วย จากการติดตามผู้ป่วยที่มีประวัติการใช้กัญชาที่มารับการรักษา ที่รพ.จิตเวชฯ ซึ่งพบเดือนละ 3-4 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เป็นผู้ป่วยกลุ่มวัยรุ่นที่สูบกัญชาเพื่อความบันเทิง อีกร้อยละ 30 เป็นกลุ่มวัยกลางคนที่ใช้สารสกัดจากน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรค จึงได้จัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำและติดตามผลจากการใช้กัญชาในผู้ป่วยจิตเวช เพื่อติดตามถึงประโยชน์และโทษจากการใช้กัญชาในผู้ป่วยจิตเวช และให้คำปรึกษาในผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาในการรักษาโรค ดำเนินการโดยเภสัชกรเพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถใช้กัญชาในการรักษาโรคได้อย่างปลอดภัย และในอนาคตรพ.จิตเวชฯจะเปิดศูนย์ในการศึกษาวิจัยการใช้กัญชาเพื่อพัฒนามาตรฐานทางวิชาการทางการแพทย์ ในระดับพื้นที่คือเขตสุขภาพนครชัยบุรินทร์ ทั้งนี้รพ.จิตเวชฯได้เตรียมเชื่อมต่อระบบบริการคำปรึกษาแก่แพทย์ พยาบาล แพทย์แผนไทย นำร่องในรพ.ที่ให้บริการรักษาด้วยนำมันกัญชา 2 แห่ง ในเขตสุขภาพคือรพ.บุรีรัมย์และรพ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สอดคล้องกับทิศทางและนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและกรมสุขภาพจิต คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562เป็นต้นไป