กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--เซ็นทรัลพัฒนา
- ชูจุดแข็งแบรนด์ดังระดับอินเตอร์กว่า 130 ร้านค้า โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็น First Time Outlet Shop ในประเทศไทย พร้อมกว่า 60 เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ที่มีเฉพาะที่เซ็นทรัล วิลเลจเท่านั้น
- ปักหมุดทำเลดีที่สุดใกล้สุวรรณภูมิดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศช้อปก่อนและหลังไปสนามบิน พร้อมรถรับส่ง 3 จุด – เซ็นทรัลเวิลด์, BTS อุดมสุข, สนามบินสุวรรณภูมิ (จุดขึ้นรถที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ)
- ผนึกภาครัฐเชิดชูแบรนด์ไทย สร้างสรรค์ Thai Pavilion งานแสดงสินค้าภูมิปัญญาไทยผสานศิลปะร่วมสมัยระดับอินเตอร์ต่อเนี่องตลอดปี
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ประกาศเปิดให้บริการโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ (Central Village) ลักชูรี่ เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 31 ส.ค. นี้ ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทยสมศักดิ์ศรี Bangkok Luxury Outlet โดยฝีมือคนไทย มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท นำจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำการพัฒนาโครงการรีเทลและอสังหาริมทรัยพ์ระดับภูมิภาค ผนวกกับความแข็งแกร่งของแบรนด์ดังระดับอินเตอร์รวมกว่า 130 สโตร์ที่เตรียมทยอยเปิด อาทิ CHLOE, CLUB 21 (OUTLET BY CLUB 21), COACH, ERMENEGILDO ZEGNA, KATE SPADE NEW YORK, KENZO, POLO RALPH LAUREN, SALVATORE FERRAGAMO, CALVIN KLEIN JEANS, JIM THOMPSON, L'OREAL LUXE, MAX & CO., MICHAEL KORS, PANDORA, SWAROVSKI, THE COSMETICS COMPANY STORE, VICTORIA'S SECRET ฯลฯ โดยความพิเศษคือมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็น First Time Outlet Shop ในประเทศไทย อีกทั้งกว่า 60 แบรนด์ได้เลือกเปิด Exclusive Outlet Store ที่มีเพียงที่เซ็นทรัล วิลเลจ ที่เดียวเท่านั้น พร้อมไฮไลท์ช้อปแบรนด์โปรดในราคาสุดคุ้ม ลด 35-70% ในทุกวัน
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด ของซีพีเอ็น เผยว่า "เซ็นทรัล วิลเลจ บุกเบิกเซ็กเมนต์ใหม่ Luxury Outlet ให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย ซึ่งซีพีเอ็นตั้งใจสร้าง New Retail Platform นี้ขึ้นมาเติมเต็มช่องว่างในตลาด โดยสร้างมิติใหม่ให้เอาท์เล็ตเป็น Shopping Destination ที่สื่อถึงความเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ที่มีเอาท์เล็ตชั้นนำของเอเชีย ส่วนเซ็นทรัล วิลเลจ ก็ถือเป็น Bangkok Luxury Outlet ที่มีศักยภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเราคาดว่าจะดึงดูดทราฟฟิก ได้ 6-10 ล้านคนตลอดทั้งปี แบ่งเป็นตลาด Domestic 65% เน้นไปที่กลุ่ม Young / Mass Affluent ของนักช้อปชาวกรุงเทพฯ และชาวไทยทั่วประเทศ และตลาด International Tourist 35% โดยโฟกัสไปที่กลุ่มที่บินมายังกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง (Middle Class) และกลุ่ม Young Affluent ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จด้วยอายุที่ยังน้อยทั่วโลก มีความชื่นชอบในการซื้อสินค้าแบรนด์เนมในราคาที่คุ้มค่า"
ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า "เซ็นทรัล วิลเลจ เป็น Shopping Heaven ที่แท้จริงด้วยซูเปอร์แม็กเน็ตของทัพแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกรวมกว่า 130 สโตร์ นอกจากนี้เรายังจัดเอ็กซ์คลูซีฟดีลกับร้านค้ากว่าครึ่งที่เปิด ช้อปเอาท์เล็ตครั้งแรกในไทย และอีกกว่า 60 แบรนด์ได้เลือกเปิดช้อปกับเราเท่านั้น ซีพีเอ็นเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนา Outdoor Mall ทำให้ที่นี่มีความสะดวกสบายครบวงจร นอกจากช้อปปิ้งเต็มอิ่ม ยังมีร้านอาหาร, ท็อปส์ มาร์เก็ต, สนามเด็กเล่น และจุดบริการนักท่องเที่ยว อีกทั้งเรายังอำนวย ความสะดวกในการเดินทางมายังโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยการจัด Shuttle Bus รับส่งใน 3 จุดที่เซ็นทรัลเวิลด์, BTS อุดมสุข และที่จุดขึ้นรถที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ สำหรับใครที่ขับรถ มาเองก็สะดวกด้วยเส้นทางหลากหลายทั้งทางด่วนและถนนเส้นหลัก นักท่องเที่ยวจึงสามารถแวะช้อปก่อนหรือหลังเดินทางไปสนามบินได้ง่าย"
สำหรับการเดินทางมายังเซ็นทรัล วิลเลจ สามารถเดินทางมาได้สะดวกด้วยเส้นทางต่างๆ ดังนี้
บริการฟรีรถรับส่ง (Free Shuttle Bus) จากเซ็นทรัลเวิลด์วันละ 3 รอบ คือ 11.00 น. – 15.00 น. และ 19.00 น. ใช้บริการขนส่งสาธารณะ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอุดมสุข ใช้ทางออก 1-3-5 แล้วต่อ Free Shuttle Bus มายังโครงการ หรือ เดินทางด้วย Airport Link ลงที่สถานีสุวรรณภูมิ จากนั้นมายังจุดจอดรถ Shuttle Bus ที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางต่อมายังโครงการจับมือ GRAB จัดโปรโมชั่น เพื่อรับส่วนลดการเดินทางมายังโครงการ ใช้รถยนต์ส่วนตัว เดินทางมุ่งหน้ายังสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ทั้งจากถนนมอเตอร์เวย์และบางนาตราด โดยโครงการจัดเตรียมที่จอดรถไว้กว่า 1,500 คัน
นอกจากนี้ ซีพีเอ็นยังวางแผนโปรโมทแบรนด์ไทย สร้างสรรค์ Thai Pavilion มหกรรมงานแสดงสินค้า ภูมิปัญญาไทยผสานศิลปะร่วมสมัยในมาตรฐานระดับโลก โดยจับมือกับภาครัฐนำโดยกระทรวงวัฒนธรรมและกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หรือ DIT จัดอีเว้นต์ธีมโมเดิร์นไทย ประกอบด้วยสินค้าแนวของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก เช่น สบู่แกะสลัก ขนมไทย ตุ๊กตาหัวโขน กระเป๋าผ้ามัดย้อม และสินค้าแฟชั่นผสานอินโนเวชั่นจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นงานหัตถศิลป์พื้นบ้านและนำมาพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ เช่น กระเป๋าถือ รองเท้าสตรี ผ้าทอมือ เครื่องหนัง เครื่องประดับ โดยจัดขึ้นหมุนเวียนตลอดปี ณ โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ บริเวณโซน Thai Pavilion และ โซน Village Square ตั้งเป้าเป็น Thai Signature Cultural Event ที่ส่งเสริมและเชิดชูเอกลักษณ์ความเป็นไทยโดยฝีมือคนไทย
เซ็นทรัล วิลเลจ Bangkok Luxury Outlet โครงการรีเทลรูปแบบใหม่ของซีพีเอ็นที่เป็น The First International Luxury Outlet ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 100 ไร่ พื้นที่โครงการ 40,000 ตร.ม. ติดสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 31 สิงหาคม 2562 โดยตั้งเป้าเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ของการช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสที่ตอบสนองทุก ไลฟ์สไตล์หลากหลายด้วยแบรนด์ชั้นนำทั้งต่างประเทศและในประเทศกับส่วนลด 35-70% ทุกๆ วัน ไม่ต้องรอ Seasonal Sale พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับความร่มรื่นสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแบบไทยโมเดิร์น เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งลักชูรี่เอาท์เล็ตให้กับกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง