กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับ ทีเส็บ นำทัพสินค้าคุณภาพดีจากชุมชนสหกรณ์ที่มีศักยภาพกว่า 27 แห่ง เข้าร่วมจัดแสดงในกิจกรรม "ไมซ์โชว์เคส" กระตุ้นให้ชุมชนได้พบปะพูดคุยกับองค์กรหน่วยงานราชการและเอกชน เพิ่มทักษะในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้า หวังเพิ่มรายได้สู่ชุมชน และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างสังคมที่ยั่งยืน
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เป็นประธานเปิดงานไมซ์เพื่อชุมชน ปีที่ 2 "เปิดมิติใหม่สู่ก้าวต่อไป อุตสาหกรรมไมซ์เพื่อชุมชน" ณ ห้อง Auditirum ชั้น 2 โรงแรม Centra by Centara กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอัชฌา สุวรรณนิตย์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร กรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้บริหารจากทีเส็บ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน โดยงาน ไมซ์เพื่อชุมชน "เปิดมิติใหม่ อุตสาหกรรมไมซ์" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 23 สิงหาคม 2562 โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับ ทีเส็บ จัดงาน "ไมซ์โชว์เคส" แสดงสินค้าจากสหกรณ์คุณภาพที่เข้าร่วมโครงการไมซ์เพื่อชุมชน ปีที่ 2 โดยมีตัวแทนสหกรณ์เข้าร่วมงาน จำนวน 27 แห่ง โดยภายในงานมีการแสดงสินค้าของดีในพื้นที่สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ (Max Beef) สหกรณ์ประมงคุ้งกระเบน จำกัด สหกรณ์การเกษตรนิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด สหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด เป็นต้น ณ ลานอาคาร B อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
สำหรับโครงการไมซ์เพื่อชุมชน เป็นความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์และทีเส็บ โดยได้คัดเลือกชุมชนสหกรณ์ที่มีศักยภาพในการส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นจุดหมายใหม่สามารถรองรับการจัดงานไมซ์ ซึ่งเป็นการจัดการประชุม สัมมนานอกสถานที่ มีการเชื่อมโยงทั้งกิจกรรมการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก การบริการต่างๆ ทั้งนี้เพื่อมุ่งหวังให้สหกรณ์เป็นแหล่งฝึกอบรม ศึกษาดูงาน การจัดกิจกรรมเรียนรู้นอกสถานที่ ตลอดจนกิจกรรมพิเศษผ่านการสร้างสรรค์ที่เหมาะสมกับอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 มีสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 85 แห่ง
ปัจจุบันโครงการไมซ์เพื่อชุมชนมี 5 เส้นทางนำร่องเป็นแหล่งศึกษาดูงาน ได้แก่ 1) สหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด จังหวัดเพชรบุรี 2) สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด จังหวัดสระบุรี 3) สหกรณ์โคเนื้อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน และสหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด จังหวัดนครปฐม 4) สหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด และ 5) สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง ซึ่งสหกรณ์ทั้งหมดมีความพร้อมเป็นแหล่งศึกษาดูงาน และสถานที่จัดกิจกรรมรองรับทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นทางเลือกสำหรับการประชุมนอกสถานที่ และในพื้นที่ยังมีวิถีชุมชนที่น่าสนใจอีกมากมาย
ผลสำเร็จหลังจากเดินหน้าโครงการ "ไมซ์เพื่อชุมชน" ปีที่ 2 สามารถสร้างมูลค่าเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชนที่เป็นแหล่งศึกษาดูงานแล้วกว่า 100 ล้านบาท ส่งผลต่อการสร้างรายได้และการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างหน่วยงานองค์กร ชุมชนที่ร่วมจัดกิจกรรมและประชุมสัมมนาในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการรองรับการจัดงานและกิจกรรมไมซ์ เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาลเพื่อสร้างความยั่งยืนทั่วประเทศ