กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--แชฟฟ์เลอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง
บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่นและบริษัท แชฟฟ์เลอร์ เทคโนโลยี AG และ KG จำกัด ผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมระดับโลก ประกาศความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ระดับโลกอย่างเป็นทางการในฐานะเครือข่ายพันธมิตร (e-F@ctory Alliance Network) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด e-F@ctory ของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่นที่สนับสนุนบริษัทที่มีมาตรการในการปรับเปลี่ยนการทำงานไปสู่ระบบดิจิทัล
ดร.สเตฟาน สปินด์เลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายอุตสาหกรรม บริษัท แชฟฟ์เลอร์ AG กล่าวว่า "การนำเสนอโซลูชั่นอุตสาหกรรม 4.0 ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าได้นั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือจากบริษัทต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน เราเชื่อมั่นว่าด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความรู้ด้านระบบของแชฟฟ์เลอร์และมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่ร่วมเป็นพันธมิตรด้านยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ จะทำให้แชฟฟ์เลอร์นำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าและตลาดชิ้นส่วนยานยนต์และอุตสาหกรรม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิ้นส่วนที่ครบวงจรได้"
ภาพจำลองของอุตสาหกรรม 4.0 นั้นโดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และมีความยืดหยุ่นในการผลิตสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และระบบอุตสาหกรรม 4.0 ที่ประกอบด้วยส่วนประกอบและเครื่องจักรที่ทำงานเชื่อมต่อกันด้วยระบบดิจิทัล เช่น การรวมการทำงานเครื่องจักรและข้อมูลโรงงานเข้ากับระบบการผลิต (MES-Manufacturing Execution Systems) และระบบวางแผนทรัพยากรการผลิตในองค์กร (ERP-Enterprise Resource Planning Systems)
ด้านนายโนริยูกิ ชิมิซุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโรงงานอัตโนมัติ บริษัท มิตซูบิชิ
อีเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการร่วมกันในหลายประเทศ ทั้งในยุโรปและเอเชีย ตอนนี้เราพร้อมที่จะขยายความร่วมมือในระดับโลกร่วมกับแชฟฟ์เลอร์"
ทั้งนี้บริษัท แชฟฟ์เลอร์ และมิตซูบิชิ อีเล็คทริค จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโซลูชั่นของอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะช่วยลดการหยุดทำงานของเครื่องจักรและช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับลูกค้า เช่น เครื่อง SLMP โปรโตคอล ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบสภาพที่ใช้ในแชฟฟ์เลอร์ โดยมีเซนเซอร์สื่อสารกับโปรแกรมควบคุมของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่ส่งสัญญาณกำหนดค่าคุณลักษณะได้ จากนั้นโปรแกรมควบคุมระบบ (PLC) จะประมวลผลข้อมูลในรูปแบบข้อความธรรมดาและแสดงขึ้นบนหน้าจอ ในส่วนของการรวมข้อมูลที่เพิ่มเติมนั้นจะช่วยให้ระบบตรวจสอบสภาพเชื่อมต่อกับโปรแกรมควบคุมระบบ (PLC) ของโรงงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยผ่านเครือข่ายสายเคเบิลและโปรโตคอล Modbus
นอกจากนี้บริษัทแชฟฟ์เลอร์ ได้มีส่วนช่วยสร้างแนวคิดการรวมผลิตภัณฑ์เมคคาทรอนิกส์ ระบบตรวจสอบสภาพการทำงานและบริการดิจิทัลเพื่อสร้างแอพพลิเคชั่นโซลูชั่น 4.0 เข้าไว้ด้วยกัน สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการสร้างผลิตภัณฑ์ และบริการที่สามารถกำหนดได้เอง โดยมุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพของระบบโดยรวมทั้งหมด บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่นจะเน้นนำเสนอระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีการประมวลผลที่หลากหลาย รวมถึงโปรแกรมควบคุมระบบ (PLC) อินเวอร์เตอร์ หุ่นยนต์ เซอร์โวไดรฟ์ และเอชเอ็มไอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพให้กับโรงงานได้
เกี่ยวกับแชฟฟ์เลอร์
กลุ่มแชฟฟ์เลอร์เป็นผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมระดับโลก ด้วยการนำเสนอส่วนประกอบ และระบบที่มีความแม่นยำสูงในเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และตัวถัง รวมถึงโซลูชั่นตลับลูกปืนแบบเม็ดกลม และแบบธรรมดาสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมจำนวนมาก กลุ่มแชฟฟ์เลอร์ได้สร้างแนวคิด "การขับเคลื่อนเพื่ออนาคต" เทคโนโลยีของเราสร้างยอดขายได้ประมาณ 14.2 พันล้านยูโรในปี 2561 โดยมีพนักงานประมาณ 92,500 คน แชฟฟ์เลอร์เป็นหนึ่งในบริษัทครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีสำนักงานสาขากว่า 170 แห่งในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งที่เป็นโรงงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนา และสำนักงานขาย ด้วยการลงทะเบียนสิทธิบัตรมากกว่า 2,400 รายการในปี 2561 แชฟฟ์เลอร์เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดเป็นอันดับสองของเยอรมนีตาม DPMA (สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเยอรมัน)