กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--อินเตอร์ไฮด์
บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL) ก้าวหน้าไปอีกสเต็ป! รุกขยายธุรกิจใหม่ "รับฟอกหนังรองเท้า" ระบุคว้าออเดอร์จากผู้ผลิตรองเท้าแบรนด์ดัง "PATARA"รายแรกเรียบร้อยแล้ว เตรียมเจรจาพันธมิตรต่างชาติอีก 1-2 ราย คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ขณะที่"วศิน ดำรงสกุลวงษ์" กรรมการและผู้จัดการทั่วไป ประเมินธุรกิจใหม่ช่วยสร้างรายได้เพิ่ม ต่อยอดจากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 73% มั่นใจสนับสนุนการเติบโตในอนาคตให้มีความมั่นคงมากขึ้น
นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์ ให้กับค่ายผลิตรถยนต์ต่างๆ ในประเทศไทยและส่งออกจำหน่ายในหลายประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รุกขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจรับฟอกหนังรองเท้า ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิม โดยล่าสุดได้ทำการตกลงซื้อขายให้กับ แบรนด์ "PATARA" เพื่อให้ IHL ฟอกหนังรองเท้าที่จะนำไปใช้ในการผลิตรองเท้า แบรนด์ "PATARA" ซึ่งเป็นแบรนด์มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับในด้านรองเท้าคุณภาพดี ในประเทศสหรัฐอเมริกา
การเข้าไปในธุรกิจรับฟอกหนังรองเท้า เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี รวมทั้งเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิม คือ ผลิตเบาะหนังรถยนต์ ปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 73% ซึ่งธุรกิจใหม่จะใช้วัตถุดิบที่ใกล้เคียงกัน และสามารถนำมาพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนสร้างรายได้ และความสามารถในการทำกำไรให้มีทิศทางที่ดีขึ้นด้วย
"ธุรกิจฟอกหนังรองเท้า นับว่าเป็นธุรกิจใหม่ ซึ่งเรามีความเชี่ยวชาญในการผลิตและฟอกหนังที่ปลอดภัย ปลอดสารเคมี เหมาะกับผู้ที่แพ้หนังทุกประเภท จึงได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ " PATARA " ซึ่งเป็นแบรนด์รองเท้าดัง และได้รับความนิยมในอเมริกา ด้วยคุณสมบัติของรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย และวัตถุดิบที่นำมาผลิตรองเท้าที่ IHL ผลิตให้สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ จึงได้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทำให้ได้รับออเดอร์ในครั้งนี้"
นายวศินกล่าวต่อว่า ปัจจุบัน บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศในธุรกิจฟอกหนังรองเท้าเพิ่มเติมอีก 1-2 ราย เพื่อผลิตหนังรองเท้า คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างมั่นคงมากขึ้น
อนึ่ง ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 838.98 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 84.02 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23.55% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 17.78%ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/62 มีรายได้รวมอยู่ที่ 403.42 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 31.79 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจัยที่สนับสนุนให้ทิศทางการดำเนินงานดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีออเดอร์การผลิตเบาะหนังรถยนต์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทฯได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่ โดยเน้นการสร้างมูลค่าให้เพิ่มกับสินค้า ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการทำกำไรได้ดีขึ้น