กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--IR PLUS
LPH เผยผลงานงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีรายได้รวม 773.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.60% กำไรสุทธิ 53.30 ล้านบาท เติบโต 20% (ไม่รวมรายการพิเศษ จากการจำหน่ายสินทรัพย์ 57.74 ล้านบาทปี 2561) มั่นใจแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังโตแรงกว่าครึ่งปีแรก เข้าไฮซีซัน หนุนผลงานไตรมาส 3/2562 โตแรง ทั้งปียังคงเป้ารายได้โต 25-30% เน้นขยายฐานคนไข้ต่างชาติ อาหรับ กัมพูชา และตรวจสุขภาพนอกสถานที่ คาดปีนี้กวาดรายได้เข้าพอร์ต 85 ล้านบาท รุกตลาดตรวจสุขภาพ แย้มโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา ปรับแบบรับประกันสังคมเพิ่ม คาดก่อสร้างปี 2563 พร้อมร่วมทุนสร้างโรงพยาบาลเอเชียอินเตอร์ฯ อยุธยา คาดเปิดในปี 2564
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.62) ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 773.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น/ลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% สาเหตุจากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 5 ศูนย์ สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้หลักจากการรักษาพยาบาลและให้บริการโต ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา และรายได้การให้บริการของบริษัทย่อย บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (AMARC) เพิ่มขึ้น 26.08% ขณะที่กำไรสุทธิรวมส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่มีจำนวน 53.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 20.47% (ไม่รวมรายการพิเศษ จากการจำหน่ายสินทรัพย์)
สำหรับแนวโน้มผลงานในครึ่งหลังปี 2562 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล จะมีผู้เข้าใช้บริการในโรงพยาบาลจะเพิ่มมาก และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ขยายพื้นที่เปิดให้บริการครบ 5 ศูนย์ฯแล้ว ส่งผลให้รายได้จากการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าเงินสด ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของรายได้จะสูงถึง 24%
"ใน ปี 2562 นี้ คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 25-30% โดยในส่วนรายได้ประกันสังคมไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกันตนเต็มจำนวนตามโควตาที่ได้รับแล้ว ส่วนรายได้ผู้ป่วยทั่วไปจะเพิ่มขึ้นกว่า 30% มาจากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ที่มีการขยายพื้นที่ให้บริการ 5 ศูนย์ฯ พื้นที่ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งเพิ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเครื่องมือที่ทันสมัย ในปีนี้จะเริ่มขยายพื้นที่เพื่อรองรับผู้ป่วยต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยต่างประเทศที่ทำงานในประเทศ (Expat) คาดว่าจะมีรายได้ 5-10 ล้านบาท ผู้ป่วย CLMV 20-25 ล้านบาท และผู้ป่วยชาวอาหรับ 60-80 ล้านบาท รวมในส่วนผู้ป่วยต่างประเทศ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในปีนี้" ดร.อังกูร กล่าว
โดยสัดส่วนรายได้ปีนี้ยังคงเดิมแบ่งเป็น ผู้ป่วยประเภทเงินสด 60% และรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคม 40% เนื่องจากขณะนี้โควตาเต็มแล้วอยู่ที่ 1.61 แสนราย ซึ่งปีนี้จำนวนโควตาผู้ป่วยประกันสังคมจะไม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังรอความชัดเจนในเรื่องของนโยบายประกันสังคมสำหรับการเหมาจ่ายรายหัว แต่คาดว่าจะยังไม่เห็นความชัดเจนในปีนี้
ขณะที่การลงทุนในโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา นั้นอาจจะมีความล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทวางแผนจะสร้างการลงทุนในโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา จะรับแต่ลูกค้าเงินสด แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแบบ เพื่อให้สามารถรองรับลูกค้าประกันสังคมได้ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2563 และแล้วเสร็จภายในปี 2565
ส่วนการเข้าลงทุนโรงพยาบาลเอกชน ในจังหวัดอยุธยา 2 แห่ง แบ่งเป็นโรงพยาบาลดำเนินการเกี่ยวกับตรวจสุขภาพพนักงานโรงงาน คือ โรงพยาบาล เอเชีย ซึ่งบริษัทถือหุ้น 50% และอีกหนึ่งแห่งคือโรงพยาบาลเอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง ทั้งนี้สัดส่วนการถือหุ้นอยู่ระหว่างเจรจาจากเดิมที่จะถือหุ้นราว 30% จะเพิ่มการถือหุ้นเป็น 50% ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดจะเปิดให้บริการช่วงต้นปี 2564 โดยเจ้าของโครงการมีแผนที่จะนำโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากดำเนินการผ่านไปแล้ว 3 ปี โดยคาดว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกที่มีผลกำไรตั้งแต่เปิดดำเนินการปีแรก