กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--เวเบอร์ แชนด์วิค
จีเอ็ม ย้ำชัด สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลใน เชฟโรเลต แคปติวา และ เชฟโรเลต โคโลราโด รองรับได้ทั้งน้ำมันไบโอดีเซล บี2 และ บี5 โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ พร้อมยังประหยัดมากขึ้นทั้งจากสมรรถนะการขับขี่ และค่าใช้จ่ายในการเติมเชื้อเพลิง ไบโอดีเซล บี5
เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เชฟโรเลต ยืนยันอย่างมั่นใจว่า เครื่องยนต์ดีเซล ในรถยนต์ เชฟโรเลต แคปติวา และเชฟโรเลต โคโลราโด ทุกรุ่น สามารถใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี2 และ บี5 ได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการทำงานของเครื่องยนต์ พร้อมทั้งยังช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทั้งจากอัตราความสิ้นเปลืองขณะขับขี่ และราคาของน้ำมันไบโอดีเซล บี5 ที่ถูกกว่าราคาน้ำมันดีเซลทั่วไป ทั้งนี้เครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์เชฟโรเลตนั้น ได้ผ่านการทดสอบ ICV (In Country Verification Test) ด้วยน้ำมันไบโอดีเซลในประเทศ ซึ่งเป็นการทดสอบยืนยันสมรรถนะของรถยนต์สำหรับการใช้งานจริงตามปัจจัยที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ เช่น คุณภาพของเชื้อเพลิง สภาพอากาศ สภาพการจราจร และสภาพของถนน เป็นต้น
“เครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่น มีสมรรถนะดีเยี่ยม พร้อมรองรับน้ำมันไบโอดีเซลได้ทั้ง บี 2 และ บี 5 โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันจากผลการทดสอบ น้ำมันไบโอดีเซล บี5 ยังให้อัตราสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงเทียบเท่ากับการใช้น้ำมันดีเซลทั่วไปอีกด้วย” มร.สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์ เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
มร. คาร์ไลส์ ยังได้ย้ำถึงเจตนารมณ์ในการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ว่า “แนวคิดในการสร้างสรรค์ยานยนต์พลังงานทางเลือกสมรรถนะสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เครื่องยนต์ดีเซลใน เชฟโรเลต แคปติวา รุ่น 2.0 ลิตร และกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง เชฟโรเลต โคโลราโด ทุกรุ่นนั้น มีความสอดคล้องกับนโยบายสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีเอ็มทั่วโลก”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับผลกระทบต่้อสิ่งแวดล้อมด้านมลพิษไอเสียจากเครื่องยนต์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้น้ำมันไบโอดีเซล โดยจากผลการทดสอบ พบว่ายังคงเป็นไปตามมาตรฐานไอเสียยูโร 3 (Euro 3) ทุกประการ
สำหรับลูกค้ารถยนต์ เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเชฟโรเลต โคโลราโด ทุกรุ่น สามารถเติมได้ทั้งไบโอดีเซล บี2 และ ไบโอดีเซล บี5 จากสถานีบริการน้ำมัน 898 แห่ง ทั่วประเทศได้ทันที โดยสามารถมั่นใจได้ว่า การเติมน้ำมันไบโอดีเซล ทั้ง บี2 และ บี5 ที่ได้มาตรฐาน นั้นจะมีความปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์เชฟโรเลต
ความผันผวนของราคาน้ำมันนั้นส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งมีผลกระทบรุนแรง เพราะเป็นพลังงานหลักที่ใช้ในธุรกิจขนส่งสินค้า ด้วยการเล็งเห็นถึงความสำคัญของพลังงานน้ำมันดีเซล รัฐบาลและกระทรวงพลังงานจึงได้กำหนดให้น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ต้องมีส่วนผสมของไบโอดีเซล 2% คือ “น้ำมันไบโอดีเซล บี2” และล่าสุด “น้ำมันไบโอดีเซล บี 5” ซึ่่งมีส่วนผสมของไบโอดีเซล 5% ซึ่งน้ำมันไบโอดีเซล บี5 นี้ มีจำหน่ายแล้วที่สถานีบริการน้ำมัน
898 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ในแผนระยะยาวของรัฐบาล ยังมีแผนปฏิบัติการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลทดแทนน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปี 2555 หรือคิดเป็นปริมาณ 805 ล้านลิตร/วัน (ข้อมูลจาก www.energy.go.th)
พลังงานเชื้อเพลิงไบโอดีเซล คือ พลังงานชีวภาพ ที่ได้จากการใช้กระบวนการทางเคมีเข้ามาเปลี่ยนน้ำมันจากพืชชนิดต่างๆ เช่น งา ทานตะวัน ถั่วลิสง ปาล์ม มะพร้าว รวมทั้งน้ำมันที่เหลือจากการปรุงอาหาร ให้เป็นน้ำมัน ไบโอดีเซล ซึ่งจากการผสมสัดส่วนต่างๆ ที่เหมาะสม ก็จะสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยไม่เกิดผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ดีเซล ขณะเดียวกัน น้ำมันไบโอดีเซลยังไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ และมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไปประมาณลิตรละ 50 สตางค์ (ราคาน้ำมันวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551)
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
คุณชาติชาย สุวรรณเสวก
กรรมการอำนวยการบริหาร
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประจำภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2791-3400 แฟกซ์. 0-2937-0441
อีเมล: chartchai.suwanasevok@gm.com