กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--กรมศุลกากร
วันนี้ (วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551) เวลา 11.30 น. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณอธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวกรมศุลกากรจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากรจำนวนมาก ณ บริเวณลาน จอดรถด้านหลังอาคาร 1 กรมศุลกากร คลองเตยตามนโยบายรัฐบาลให้กรมศุลกากรได้เร่งรัดปราบปรามสินค้าหนีภาษี สินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาที่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ สินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภคที่ลักลอบนำเข้า-ส่งออกผ่านเขตแดนต่างๆ ตลอดจนสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมสิ่งแวดล้อม และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฯที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผนจับกุมผู้กระทำผิด โดยมีผลการจับกุมดังนี้
1. สินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ประเภท นาฬิกา ยี่ห้อต่างๆ อาทิ PUMA CASIO ROLEX K-SWISS TAG HEUER BENTLEY ฯลฯ จำนวน 20,483 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท หน้ากากโทรศัพท์ ยี่ห้อ NOKIA จำนวน 70,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท เครื่องคิดเลข ยี่ห้อ CASIO CITIZEN จำนวน 4,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท กระเป๋า ยี่ห้อต่างๆ อาทิ CHANEL BURBERRY VARSACHE LOUIS VITTON GUCCI จำนวน 5,436 ชิ้น มูลค่าประมาณ 5.4 ล้านบาท กางเกง ยี่ห้อ D&G CK BILLABONG GUESS จำนวน 9,300 ชิ้น มูลค่าประมาณ 2.8 ล้านบาท และเสื้อ ยี่ห้อ ABERCROMBIE จำนวน 2,400 ชิ้น มูลค่าประมาณ 1.2 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านบาท
เสื้อกีฬา เสื้อแจ็คเก็ต กางเกงยีนส์ นาฬิกา แว่นตา ยี่ห้อ Nike Adidas Ferrari Diesel Rolex Playboy Rayban ฯลฯ บุหรี่ต่างประเทศ ยี่ห้อ L&M MARLBORO REGAL ฯลฯ มูลค่าประมาณ 6.6 แสนบาท ลูกโป่งยี่ห้อ การ์ฟิลด์ Micky Mouse ตุ๊กตายี่ห้อ ดราก้อนบอล จำนวน 15,300 ชิ้น มูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นบาท ปลอกหมอน/ ผ้าคลุมเตียง/ ผ้าปูที่นอนลายการ์ตูน กระเป๋าถือสตรี หัวเข็มขัดทำด้วยโลหะ กางเกงในบุรุษ-สตรี กระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อ POOH PRADA ARMANI DIESEL CALVIV KLIEN จำนวน 6,394 ชิ้น มูลค่า 7.5 แสนบาท ผ้าห่มนวม กระเป๋าสตางค์ นาฬิกาปลุก กางเกงใน จำนวน 23,780 ชิ้น มูลค่า 4.87 แสนบาท และสินค้าประเภท กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือสตรี หมวกทำด้วยผ้า ยี่ห้อ HELLO KITTY และอื่นๆ จำนวน 8,640 ชิ้น มูลค่า 3.8 แสนบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 2.3 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวข้างต้นถือเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่งพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และมาตรา 16,17 แห่งพ.ร.บ.ศุลกากร(ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 108-110(1) แห่งพ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ฯจึงได้ยึดของกลางทั้งหมดส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
2. สินค้าลักลอบประเภทต่างๆ
-สุราและไวน์ต่างประเทศ จำนวน 164 ลัง (1,968 ขวด) มูลค่าประมาณ 2,800,000 บาท และ แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ จำนวน 10 หีบห่อ (8,000 แผ่น) มูลค่าประมาณ 800,000 บาท เครื่องอุปโภคบริโภค ประเภท ลูกเกด จำนวน 140 ลัง ลูกพรุนแห้ง จำนวน 300 กระป๋อง และน้ำลูกพรุน จำนวน 630 ขวด มูลค่ากว่า 3 แสนบาท ผลิตภัณฑ์น้ำหอมภายใต้เครื่องหมายการค้า จำนวน 18 หีบห่อ (5,000 ชิ้น) มูลค่าประมาณ 5 แสนบาท สิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดต่าง ๆ จำนวน 20 หีบห่อ (500 กระบอก) มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ภายใต้เครื่องหมายการค้า อาทิเช่น นาฬิกา แว่นตา กระเป๋าสตางค์ เข็มขัด จำนวน 5 หีบห่อ มูลค่าประมาณ 1 แสนบาท และไพ่พลาสติก จำนวน 10 หีบห่อ (1,800 สำรับ) มูลค่าประมาณ 180,000 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,780,000 บาท จับกุมได้บริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. รวมมูลค่าทั้งสิ้น กว่า 5 ล้านบาท
-กระเทียมแห้ง บรรจุกระสอบ จำนวน 650 กระสอบ น้ำหนัก 11,700 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 3 แสนบาท
-ไม้พะยูง เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 กรมศุลกากรได้ทำการจับกุมสินค้าไม้พะยูง จำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ (ประมาณ 800 ท่อน) มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท โดยบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข TGHU 2002268, SKLU 2597535, SKLU 2206728 และ FSCU 7363922 สำแดงในใบขนสินค้าขาออก ระบบ PAPERLESS เลขที่ A016-1-5102-03633, เลขที่ A016-1-5102-03630 และ เลขที่ A016-1-5102-03630 ตามลำดับ ระบุชื่อผู้ส่งออก ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่วมกิจเทรดดิ้ง สำแดงชนิดสินค้าเป็นส่วนประกอบสิ่งก่อสร้างพื้นเหล็ก ปริมาณ 905 PCS. น้ำหนัก 62,000 กิโลกรัม ส่งออกโดยเรือ MARCOMPETITION VOY.002N เที่ยววันที่ 7 มีนาคม 2551 ปลายทาง HONG KONG กรณีสำแดงชนิดสินค้าเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด ในการส่งออกสินค้าไปนอกราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 27,99 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 และสินค้าไม้ทั้งหมดเป็นของควบคุมการส่งออกตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2549 เจ้าหน้าที่ฯ ได้ยึดไม้ของกลางดังกล่าวส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบสินค้าหนีศุลกากรในครั้งนี้ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 43.2 ล้านบาท