กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานราชการลำดับที่สองในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำแพลตฟอร์มเทรดเลนส์มาใช้ในการค้าทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้องและปลอดภัย
กรมศุลกากร ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ร่วมมือกับ ไอบีเอ็ม ประเทศไทยและเมอส์กประกาศนำแพลตฟอร์ม 'เทรดเลนส์' (TradeLens) ที่พัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ในประเทศไทยเพื่อพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยแพลตฟอร์มดังกล่าว ทำให้กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานราชการลำดับที่สองในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่สามในประเทศกลุ่มเอเชียแปซิฟิกที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
'เทรดเลนส์' คือ แพลตฟอร์มระบบดิจิตอลที่ใช้ในการค้าระหว่างประเทศที่ทำให้การติดตามระบบขนส่งมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้ใช้แพลตฟอร์มได้ ระบบดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของบริษัทขนส่ง เอ.พี.มอลเลอร์-เมอส์กและไอบีเอ็ม ที่เปลี่ยนกระบวนการขนส่งแบบเก่าที่ต้องใช้เอกสารมาเป็นระบบดิจิตอล ที่จะช่วยเสริมให้ระบบขนส่งครบวงจร มีความรวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำ
การที่แพลตฟอร์มเทรดเลนส์ช่วยเปลี่ยนกระบวนการขนส่งให้เป็นระบบดิจิตอล ซึ่งจะช่วยให้กรมศุลกากรมีเครื่องมือในการติดตามแบบอัตโนมัติและแม่นยำ ส่งผลให้การทำงานมีความปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ Near Real-time ระหว่างสมาชิกเครือข่ายของทางระบบ โดยเจ้าหน้าที่
กรมศุลกากรจะสามารถทราบข้อมูลการส่งสินค้าเกือบจะในทันทีที่ตู้สินค้าออกจากท่าเรือต้นทาง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่มีเวลาในการเตรียมรับสินค้าที่กำลังจะมาถึง และทำให้การตรวจสอบสินค้าผิดกฎหมายและสินค้าหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและโปร่งใส
นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ศุลกากร กรมศุลกากร กล่าวว่า "ความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลบนแพลตฟอร์มเทรดเลนส์ทำให้กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการค้าระหว่างประเทศบนแพลตฟอร์มเดียวกันได้แบบ Real-time ซึ่งการตรวจปล่อยสินค้าล่วงหน้าจากข้อมูลบนแพลตฟอร์มเทรดเลนส์ กรมศุลกากรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ในการควบคุมทางศุลกากร อีกทั้ง เป็นการลดระยะเวลาในการผ่านพิธีการศุลกากร ลดค่าใช้จ่าย และลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ สร้างความโปร่งใส ความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ
อันเป็นการตอบรับ Ease of doing business ภายใต้พันธกิจด้านอำนวยความสะดวกทางการค้า ด้านสังคม และความมั่นคงของประเทศต่อไป"
คุณปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับทางกรมศุลกากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจทั้งภายในและระหว่างประเทศ เราเชื่อว่าแพลตฟอร์มเทรดเลนส์และการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ในหลายๆ ด้าน จะส่งผลดีให้ทุกฝ่ายในระบบนิเวศของการขนส่ง ซึ่งจะยกระดับการค้าการลงทุนให้ทันสมัยทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับสากล"
ในแต่ละปีสินค้ามูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาทถูกขนส่งระหว่างประเทศ โดย 80 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าดังกล่าวส่งผ่านทางอุตสาหกรรมขนส่งทางทะเล ขั้นตอนทางเอกสารต่างๆ สร้างความยุ่งยากให้ระบบขนส่งทั่วโลก ทั้งสร้างความไม่แน่นอน ความไม่ถูกต้องของข้อมูล ความล่าช้าหรือการหยุดชะงักในขั้นตอนการเช็คสินค้าและกรอกข้อมูลด้วยมือ ขาดการประเมินความเสี่ยง การสื่อสารที่ไร้ประสิทธิภาพและมีต้นทุนสูงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และยังมีความไม่โปร่งใสอีกด้วย