กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
-ปีนี้วางเป้าหมายติดอันดับ Top 5และมาร์เก็ตแชร์แตะ 4.5-5%
"ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ" ประกาศแผนงาน BSEC ปี 2551 พร้อมรุกธุรกิจทุกด้านที่สามารถสร้างผลประกอบการของบริษัทให้ขยายตัว วางแผนเปิดบริการ AFET,TFEX,SBL,Cash Management, Investment Trading และ Private Fund เพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจและเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดแข่งขันเสรีในอนาคต สำหรับงานด้านค้าหลักทรัพย์ขอขึ้นแท่นโบรกเกอร์ติดอันดับ 1 ใน 5 รายแรกของไทย และตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร็ไว้ที่ระดับ 4.5-5.0% ส่วนงานวาณิชธนกิจพร้อมทุ่มสุดตัวประเมินมูลค่าเบื้องต้นปีนี้มูลค่า 4-5 พันล้านบาท
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) (BSEC) เปิดเผยถึงแผนงานในปี 2551 ว่าแม้สถานการณ์ของตลาดหลักทรัพย์จะมีการซื้อขายที่ค่อนข้างผันผวน แต่ BSEC ไม่ได้กังวลกับเรื่องดังกล่าวมากนัก เนื่องจากทีมผู้บริหารได้วางแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยงเอาไว้แล้ว โดยในปี 2551 ตั้งเป้าที่จะไม่พึ่งพึงรายได้จากงานด้านค้าหลักทรัพย์ให้มากเกินไป แต่จะขยายธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้นโดยรุกเข้าไปในด้านต่างๆ อาทิ ให้บริการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า(AFET), ให้บริการตลาดอนุพันธ์(TFEX), ให้บริการในธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (Securities Borrowing and Lending: SBL),ให้บริการงานกองทุนส่วนบุคคล(Private Fund), บริหารกระแสเงินสดให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น (Cash Management)และบริหารพอร์ตลงทุนของบริษัท(Investment Trading) ซึ่งที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ
ในส่วนของงานด้านค้าหลักทรัพย์ในปีนี้ตั้งเป้าขยับขึ้นมาเป็นโบรกเกอร์อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทยและตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด(Market share)ประมาณ 4.5-5.0% จากการขยายตลาดลูกค้าอินเตอร์เน็ต เทรดดิ้ง ซึ่งบริษัทมีความพร้อมทั้งบุคลากรและทีมที่มีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพ โดยจะเพิ่มบุคลากรประมาณ 30-40% จากปัจจุบันมีพนักงานจำนวน 300 คน ที่มีความเป็นมืออาชีพทุกจุด ซึ่งคาดว่าในปีนี้บริษัทจะขยับขึ้นมาเป็นโบรกเกอร์ติดอันดับ Top 5 ได้
ขณะที่งานด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) คาดว่าในปี 2551 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นได้มากกว่าปีที่ผ่านมา 100% โดย BSEC ได้ขยายทีมงานเพิ่มขึ้นจาก 4 ทีมเป็น 5- 6 ทีมในปัจจุบัน เพื่อรองรับกับลูกค้าที่มาใช้บริการกับบริษัทที่มีจำนวนมากขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีดีลการนำบริษัทเข้าระดมทุนเสนอขายหุ้นกับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ)และเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายขณะนี้มีอยู่ประมาณ 14-15 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนกว่า 4-5 พันล้านบาท
"แผนการบริหารงานในปี 2551 จะมีการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจอื่นมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สิ่งที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมคือ BSEC จะหันมาเน้นการทำธุรกิจด้านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เพราะมีค่าคอมมิสชั่นเพียง 0.15% ของมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าลูกค้าทางอินเตอร์เน็ตจะอยู่ที่ระดับ 60-70% จากปี50 ซึ่งอยู่ที่ 50% และลูกค้าที่ซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่ทางการตลาด 50% ขณะนี้เป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จและขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในปี 2550 มีมาร์เก็ตแชร์ด้านอินเตอร์เน็ต เทรดดิ้ง ประมาณ 11% -12% ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ว่า BSEC มีความพร้อมในการแข่งขันทางด้านการเปิดเสรีค่าคอมมิสชั่น"
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายว่าปีนี้ BSEC มีแผนที่จะเปิดสาขาขนาดเล็กเพิ่มขึ้นอีก 2-3 สาขา เพื่อเป็นการขยายฐานเข้าไปให้ถึงกลุ่มผู้ลงทุนรายย่อยให้มากขึ้น และพยายามจะรักษาส่วนแบ่งการตลาดของลูกค้าอินเตอร์เน็ต
เทรดดิ้ง ให้อยู่ในอันดับที่ 1 ต่อไป รวมถึงดูแลงานในด้านวิจัยหลักทรัพย์ให้ครอบคลุมกับหลักทรัพย์ขนาดกลางและเล็กที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนให้มากขึ้นด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณสิริน วิวัฒน์เจริญพงศ์ โทร. 02-5549353 / 089-7286389