กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--กระทรวงพลังงาน
ภาครัฐขอบคุณคนไทยใส่ใจประหยัดพลังงาน ปี 2548 ลดใช้พลังงานได้กว่า 30,000 ล้านบาท ย้ำให้ชาวไทยร่วมใจประหยัดต่อเนื่องด้วยการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
นายพรชัย รุจิประภา รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกประสบปัญหาวิกฤติราคาน้ำมัน โดยเฉพาะประเทศไทยที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศถึง 5
แสนล้านบาทต่อปี ในขณะที่ส่งออกสินค้าเกษตรเพียง 2 แสนล้านบาท ทำให้ภาครัฐได้มีการผลักดันมาตรการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานหลายๆ มาตรการ ออกมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการตรึงราคาน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าจะเลิกการตรึงราคาไปแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังมีภาระในการชำระหนี้ที่ได้กู้เงินมาชดเชยการตรึงราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลซึ่งสูงถึงเกือบ
1 แสนล้านบาท
นอกจากนี้
ในแผนยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาด้านพลังงานของประเทศยังได้กำหนดให้มีการจัดหาพลังงานทดแทน
และส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ผลักดันมาตรการประหยัดพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญได้กำหนดให้การประหยัดพลังงานเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยทั้ง 60 ล้านคนในการประหยัดพลังงานเป็นอย่างดี
โดยในปี 2548 เป็นที่น่ายินดีที่พบว่าหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน และประชาชนต่างก็ให้ความร่วมมือกันประหยัดพลังงานอย่างจริงจังโดยในส่วนของภาครัฐและประชาชน สามารถลดการใช้พลังงานลงได้คิดเป็นเงิน 4,600 ล้านบาท ภาคอุตสาหกรรม สามารถลดการใช้พลังงานได้คิดเป็นเงิน 9,000 ล้านบาท และภาคขนส่ง สามารถลดการใช้พลังงานลงได้คิดเป็นเงิน 17,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นสามารถประหยัดพลังงานได้คิดเป็นเงินรวม 30,600 ล้านบาท
“ต้องขอขอบคุณคนไทยทุกคน ที่ร่วมมือร่วมใจกันประหยัดพลังงานกันอย่างจริงจังตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยของเราสามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจไปได้ด้วยดี สามารถลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศได้นับหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมมือร่วมใจกันประหยัดพลังงานต่อไป โดยยึดมั่นในพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงแนะนำให้ชาวไทยใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งนอกจากจะช่วยให้เราอยู่อย่างมีความสุขแล้ว ยังช่วยประเทศชาติมีความมั่นคงอีกด้วย” รองปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว--จบ--