กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon Venture Capital) บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงทุนในบริษัทแอสไพร์ ไฟแนนเชียล เทคโนโลยี โฮลดิ้ง (Aspire Financial Technologies Holding, Inc.) พร้อมนักลงทุนแนวหน้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และสหรัฐฯ อาทิ Y Combinator, MassMutual Ventures SEA, Insignia Ventures Partners, Hummingbird Ventures, Picus Capital ซึ่งเป็นการระดมทุนรอบซีรี่ส์เอ ที่มีมูลค่ารวม 32.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยธนาคารกสิกรไทยมีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับแอสไพร์ในการนำเทคโนโลยีมาให้บริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลแก่ลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
แอสไพร์เป็นแพลตฟอร์มการเงินแบบดิจิทัล (Neo bank platform) ที่ให้บริการทางการเงินแก่เอสเอ็มอี ไม่ว่าจะเป็นการให้สินเชื่อ การจ่ายเงิน หรือการรับเงินและการชำระเงินผ่านช่องทางของพาร์ทเนอร์
ผลิตภัณฑ์หลักของแอสไพร์ คือ AspireAccount ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน 6 เดือน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ 100% และใช้เวลาในการโอนเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการจ่ายเงินหรือการรับเงินระหว่างคู่ค้าในประเทศไทยและในต่างประเทศ พร้อมเครื่องมือจัดการกระแสเงินสด นอกจากนี้ แอสไพร์วางแผนที่จะออกบัตรเครดิตภายในปีนี้เพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถซื้อวัตถุดิบหรือสินค้ามาขายได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะนี้แอสไพร์ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ อาทิ ประเทศไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล กล่าวว่าการให้บริการทางการเงินแก่ผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (Underbanked) และกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการลงทุนของ Beacon VC ซึ่งแอสไพร์มีทีมงานที่เก่งและเพรียบพร้อมมาก สามารถขยายธุรกิจ ซึ่งขณะนี้มีการให้บริการถึง 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยใช้เวลาเพียงปีครึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ ทีมงานยังมีประสบการณ์ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาก่อน ทำให้เข้าใจความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และเอสเอ็มอีขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี แอสไพร์สามารถตอบโจทย์เรื่องการกู้ยืมรวมถึงการชำระเงินออนไลน์ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากเพราะลูกค้าสามารถรับบริการทางการเงินในการดำเนินธุรกิจได้จากแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง
มีสเตอร์แอนเดรีย บารอนเชลลี่ หนึ่งในผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอสไพร์ กล่าวว่า เนื่องจากแอสไพร์และธนาคารกสิกรไทยมีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการให้บริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลที่สอดคล้องกัน และธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารที่มีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีมากที่สุดในประเทศไทย แอสไพร์และธนาคารกสิกรไทยมีความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ทางการเงินที่แตกต่างให้ลูกค้า ในขณะนี้ยังมีเอสเอ็มอีอีกมากที่ไม่สามารถเข้าถึงการขอสินเชื่อของธนาคารได้ แอสไพร์หวังว่าจะเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าเหล่านี้ รวมทั้งลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยจากการลงทุนและการร่วมมือกันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านสินเชื่อ ด้านการจ่ายเงินหรือรับเงิน และด้านการชำระเงิน
แอสไพร์ถือเป็นการลงทุนโดยตรงครั้งที่ 8 ของ Beacon VC โดยที่ผ่านมา Beacon VC ได้ลงทุนใน "จิตตะ" ผู้ให้บริการบริหารกองทุนโดยใช้เทคโนโลยี AI, InstaReM ผู้ให้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศ, Grab ผู้ให้บริการเรียกรถและบริการทางการเงินชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ แอสไพร์มีจุดมุ่งหมายเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย
เกี่ยวกับบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด
Beacon VC (https://beaconvc.fund/) ตั้งขึ้นในปี 2560 โดยทำหน้าที่เป็นกองทุนร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย Beacon VC ลงทุนเชิงกลยุทธิ์เพื่อต่อยอดการดำเนินงานเชิงเทคโนโลยีของธนาคาร โดยเน้นลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่ (Early stage) จนถึงบริษัทที่อยู่ในช่วงขยายธุรกิจ (Growth stage) โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีด้านการเงินเท่านั้น แต่รวมถึงเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค (Consumer technology) และเทคโนโลยีสำหรับองค์กร (Enterprise technology) ทั้งนี้ กองทุน Beacon VC มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 135 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และได้ลงทุนในหลายบริษัท เช่น FlowAccount, Grab, InstaReM, และ Jitta
เกี่ยวกับบริษัท แอสไพร์ ไฟแนนเชียล เทคโนโลยี โฮลดิ้ง
แอสไพร์ (https://weaspire.co.th/) เป็นแพลตฟอร์มการเงินแบบดิจิทัล (Neo banking platform) ที่ให้บริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลแก่เอสเอ็มอี โดยแอสไพร์ให้บริการในประเทศไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม AspireAccount เป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าเอสเอ็มอีสามารถขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน 6 เดือนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจผ่านการเปิดบัญชีออนไลน์ที่รวดเร็ว โดยใช้การกดเมาส์เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือบริการกระแสเงินสดให้ลูกค้าอีกด้วย แอสไพร์ตั้งขึ้นในเดือนมกราคมปี 2561 โดยอดีตผู้บริหารของ Lazada และผ่านโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพชั้นนำของโลก Y Combinator มาแล้วในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา