กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง
สองนักแสดงมากความสามารถ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และพริม-พริมา พันธุ์เจริญ เดินสายร่วมสร้างแรงบันดาลใจในฐานะ "ทูตการอ่าน" กับกิจกรรม SCHOOL ROADSHOW กับโครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 " ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และร้านนายอินทร์ โดยนุ่น-ศิรพันธ์ เดินทางไปร่วมกิจกรรม ณ โรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี และพริม-พริมา เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนบ้านโดท่างาม จังหวัดมหาสารคาม ร่วมแชร์ประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจรักการอ่านและเล่านิทานที่สอดแทรกความรู้และให้ข้อคิดดีๆให้กับน้องๆบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เผยว่า "อยากขอบคุณที่เชิญมาเป็นทูตการอ่านร่วมโครงการส่งความรู้สร้างความสุขปี 2 ในครั้งนี้ กิจกรรมในครั้งนี้ทำให้น้องๆได้เห็นว่าการอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่สนุกและยังได้รับความรู้ โดยส่วนตัวแล้วนุ่นเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว จนถึงทุกวันนี้ยังชอบอ่านหนังสือเพราะรู้สึกว่าการอ่านเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ทำให้เราสามารถนำเอาความรู้จากเรื่องต่างๆมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเราได้ น้องๆจะมีความรู้มีรากฐานที่ดีถ้ารักการอ่าน นุ่นคิดว่าการอ่าน 15 นาทีเป็นเวลาที่ดีสำหรับการเริ่มต้นที่จะอ่าน เป็นช่วงเวลาที่ไม่น้อยจนเกินไปและไม่มากจนเกินไป เราเริ่มวันละนิดวันนี้15 นาที พรุ่งนี้ 15 นาที เราจะเริ่มเคยชินกับการอ่านและเริ่มมีสมาธิ อย่าเชื่อที่นุ่นพูดค่ะอยากให้ลองมันจะไม่เกิดผลอะไรถ้าหากทุกคนยังไม่ได้ลองแล้วจะรู้ว่ามันมีความมหัศจรรย์ของเลข 15 นาทีจากการอ่านนี้อยู่ค่ะ"
พริม-พริมา พันธุ์เจริญ เผยว่า "รู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งความรู้สร้างความสุขปี 2 สร้างความสุขให้กับน้องๆที่โรงเรียนบ้านโดท่างาม จังหวัดมหาสารคาม และประทับใจในช่วงกิจกรรม Booktalk ซึ่งมีน้องๆที่รักการอ่านมาร่วมกิจกรรมกันเยอะมาก ส่วนตัวของพริมแล้วจะอ่านหนังสือเป็นเล่มแบบผ่านๆ หรือการอ่านบทละครที่ต้องใช้ความจำ ก็จะอ่านภาพรวมแล้วมาเน้นจุดสำคัญอีกครั้งจะช่วยให้เราจำได้ดี พริมจะชอบอ่านหนังสืออ่านเล่นที่ให้ข้อคิดดีๆ เป็นหนังสือที่อ่านง่ายและสามารถนำคำแนะนำจากในหนังสือมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ จริงๆแล้วการอ่านหนังสือวันละ 15 นาที ต่อวันไม่ใช่เวลาที่เยอะ ถ้าน้องๆอ่านหนังสือสะสมไปทุกวันก็จะเป็นคนที่มีความรู้เราไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ ความรู้ในหนังสือเป็นสิ่งที่สามารถเก็บติดตัวไว้ได้ตลอด เมื่อเวลาผ่านไปเราสามารถนำออกมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ยิ่งเรามีเยอะมากแค่ไหนเราก็สามารถนำเอาออกมาใช้ได้เยอะเท่านั้น อยากให้น้องๆลองอ่านหนังสือวันละ 15 นาทีดูนะคะ"
เรียกได้ว่าเป็น 3 สาวนักอ่านตัวจริงที่เยาวชนรุ่นใหม่ควรนำเป็นตัวอย่างมากทีเดียว สามารถติดตามภาพกิจกรรมและความสนุกจากการอ่านกันได้ทางแฟนเพจ The Happy Read