กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--กรุงเทพมหานคร
นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าว กทม. ประกาศแจ้งผลการคัดเลือกบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการกำจัดมูลฝอยด้วยระบบเตาเผามูลฝอยที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เรียบร้อยแล้ว นั้น กทม. ยังมีโครงการกำจัดมูลฝอยด้วยระบบเตาเผามูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม คาดจะใช้เวลาดำเนินการอีกระยะหนึ่งว่า ปัจจุบัน กทม. มีปริมาณขยะที่เก็บขนได้เฉลี่ย 10,700 ตัน/วัน ดำเนินการกำจัดโดยวิธีการฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ คิดเป็นร้อยละ 80 รองลงมากำจัดด้วยวิธีหมักทำปุ๋ย คิดเป็นร้อยละ 15 ส่วนที่เหลือกำจัดด้วยวิธีการเผาและผลิตไฟฟ้า คิดเป็นร้อยละ 5 โดยขยะประมาณ 2,500 ตัน/วัน ขนส่งไปยังศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม โดยจ้างเอกชนนำไปกำจัดด้วยวิธีฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะในพื้นที่ของเอกชนทั้งหมด ทั้งนี้ กทม. จำเป็นต้องสร้างเสถียรภาพในการบริหารจัดการขยะด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการพึ่งพาระบบการฝังกลบขยะนอกพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วยการพัฒนาระบบกำจัดขยะโดยระบบเตาเผาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง สามารถนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปของพลังงาน จึงได้ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมการกำจัดมูลฝอยด้วยระบบเตาเผา ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษา เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ