กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์
บริษัทเวียตเจ็ท (Vietjet Aviation Joint Stock Company - รหัสในตลาดหุ้น: VJC) เปิดเผยงบการเงินหลังตรวจสอบบัญชีในช่วง 6 เดือนแรกของปี ระบุรายรับที่ 20,181 พันล้านดอง ผลกำไรก่อนหักภาษี 1,553 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 22% และ 15% ตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เวียตเจ็ทรายงานรายรับจากกิจกรรมทางธุรกิจและการขนส่งผู้โดยสารที่ 18,984 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน โดยในจำนวนนี้ คิดเป็นรายรับในต่างประเทศอยู่ที่ 6,865 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 51% จากปีก่อน และรายรับจากบริการเสริมอยู่ที่ 5,429 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 43% จากปีก่อนซึ่งเกิดจากจำนวนผู้โดยสารบนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและคิดเป็นอัตราส่วนถึง 27% ของรายรับบริการขนส่งทางอากาศ โดยรายรับในต่างประเทศรวม (ในประเทศที่มีเส้นทางบิน) อยู่ที่ 10,944 พันล้านดอง คิดเป็น 54% ของรายรับรวมทั้งหมดจากบริการขนส่งทางอากาศ ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจในต่างประเทศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท
จากข้อมูลงบการเงินหลังตรวจสอบบัญชี อัตราส่วนผู้โดยสารเส้นทางระว่างประเทศเพิ่มขึ้น 35% โดยในช่วงครึ่งปีแรกเวียตเจ็ทเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ 9 เส้นทางสู่ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน และเส้นทางบินในประเทศอีก 3 เส้นทาง ทำให้เครือข่ายการบินของเวียตเจ็ทมีบริการเส้นทางบินมากถึง 120 เส้นทาง ครอบคลุมจุดหมายผลายทางทั้งในเวียดนาม ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย กัมพูชา อินโดนีเซีย จีน ฯลฯ นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังมีการดำเนินงานในสนามบินอีกหลายแห่งทั่วโลกซึ่งรวมถึงดูไบและโดฮา เวียตเจ็ทยังมีช่องทางสร้างการเติบโตได้ในตลาดการบินต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมีอัตราผลกำไรที่สูงจากรายรับของบริการเสริมและต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่ำ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
ตลอด 6 เดือนแรกที่ผ่านมา เวียตเจ็ทบริหารเที่ยวบินจำนวน 68,821 เที่ยว ให้บริการผู้โดยสารรวมทุกเส้นทางกว่า 13.5 ล้านคน โดยเวียตเจ็ทยังคงรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจการบินภายในประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาด 44% ในครึ่งปีแรก โดยมีสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์รั้งอันดับ 2 ที่ส่วนแบ่ง 35.9%เจ็ทสตาร์แปซิฟิก 13.9% แบมบูแอร์เวส์ 4.2% และวาสโก 2%
เมื่อพิจารณาที่ตัวชี้วัดการเงินรวม สายการบินมีทรัพย์สินรวมมูลค่า 43,005 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมีดัชนีสภาพคล่องสูงที่ 1.41 อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 0.51 โดยช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.64 ในขณะที่มูลค่าหุ้นอยู่ที่ 15,529 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ส่วนปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available seat kilometers - ASK) ยังคงรักษาอัตราส่วนที่ดีเยี่ยม มีต้นทุนต่อหน่วยจากการผลิตด้านผู้โดยสาร (CASK) ที่ 3.88 เซนต์ และต้นทุนต่อหน่วยจากการผลิตด้านผู้โดยสารหลังหักค่าน้ำมัน (CASK ex-fuel) ที่ 2.27 เซนต์ สืบเนื่องจากค่าเชื้อเพลิงที่ลดลง (ลดลงราว 4%) และการประหยัดต้นทุนทั้งในด้านการบริหารจัดการและการดำเนินงาน (ลดลงราว 2%)
สำหรับในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นของเวียตเจ็ทได้รับการจดทะเบียนในดัชนี Vietnam Sustainability Index (VNSI) โดยตลาดหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2019 ถึง 31 กรกฎาคม 2020 ซึ่งเป็นการรวบรวมหุ้นของบริษัทชั้นนำ 20 แห่งที่มีคะแนนการพัฒนาที่ต่อเนื่องมากที่สุด ดัชนี VNSI คือหนึ่งในมาตรการของตลาดหลักทรัพย์เวียดนามที่นำเสนอรายชื่อบริษัทชั้นนำที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถถือหุ้นเขียวได้ในพอร์ตของตนเอง นอกจากนี้ ข้อมูลของ Airfinance Journal ยังระบุว่า เวียตเจ็ทเป็นบริษัทสายการบินอันดับที่ 22 จากทั้ง 50 แห่งของโลกที่มีตัวชี้วัดทางการเงินและการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมทีสุดในหมู่สายการบินชื่อดังทั้ง 162 แห่งของโลก
ด้วยความมุ่งมั่นสู่การเป็น "สายการบินเพื่อผู้บริโภค" เวียตเจ็ทยังจับมือกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อสร้างระบบการดำเนินงานที่หลากหลายบนพื้นฐานแพล็ตฟอร์มเทคโนโลยีสมัยใหม่ สำหรับการมอบข้อเสนอมากมาย บริการและผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยในเดือนมิถุนายน 2019 เวียตเจ็ทได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ซึ่งนำเสนอโปรแกรมสมาชิก Vietjet SkyClub เพื่อมอบของแถม สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการจองตั๋วที่รวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังร่วมมือกับ Google Flights เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของผู้คน การท่องเที่ยว และประเทศเวียดนามสู่สายตาชาวโลก รวมถึงมอบข้อเสนอการเดินทางท่องเที่ยวแก่ชาวเวียดนามและนักเดินทางทั่วโลก และล่าสุด ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เวียตเจ็ทยังประกาศความร่วมมือกับ สวิฟต์247 และ แกร็บ เพื่อนำเสนอบริการขนส่งสินค้าด่วนผ่านแพล็ตฟอร์มการขนส่งสมัยใหม่ของ GrabExpressและเครื่องบินของเวียตเจ็ท
อุตสาหกรรมการบินของเวียดนามมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะเติบโตอย่างเข้มแข็งในอนาคต โดยองค์กรท่าอากาศยานเวียดนามคาดการณ์ว่าในปี 2019 จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางโดยสารการบินต่าง ๆ จะสูงถึง 112 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 8 ล้านคน ในฐานะสายการบินชั้นนำของตลาดการบินภายในประเทศและเครือข่ายการบินระหว่างประเทศที่กำลังเติบโตอย่างเข้มแข็ง เวียตเจ็ทมีความได้เปรียบจากเครือข่ายการบินขนาดใหญ่ ฝูงบินสมัยใหม่ที่ประหยัดค่าเชื้อเพลิงและมีอายุการใช้งานเฉลี่ยต่ำที่สุดในโลกเพียง 2.82 ปี ราคาบัตรโดยสารที่คุ้มค่า และสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับนักเดินทาง ทั้งการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวกับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว การศึกษาในต่างประเทศ และการค้า
เกี่ยวกับ เวียตเจ็ทกรุ๊ป
สายการบินเวียตเจ็ท คือสายการบินในประเทศเวียดนามรายแรกซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินยุคใหม่ ซึ่งนอกจากบริการขนส่งผู้โดยสาร สายการบินเวียตเจ็ทยังใช้เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซใหม่ล่าสุด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการมากมายแก่ผู้บริโภค เมื่อเร็ว ๆ นี้ สายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) ได้รับบรรจุเป็นสมาชิกของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (International Air Transport Association: IATA) โดยสมบูรณ์ หลังจากได้รับใบรับรองการบริหารความปลอดภัยของสายการบินจากไออาตาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัล "สายการบินต้นทุนต่ำพิเศษยอดเยี่ยมแห่งปี 2018-2019 (Best Ultra Low-Cost Airline 2018-2019) และยังได้รับการจัดอันดับด้านความปลอดภัยระดับ 7 ดาวจากเว็บไซต์AirlineRatings.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านความปลอดภัยและการจัดอันดับผลิตภัณฑ์ระดับโลก นอกจากนี้ บริษัทยังติดอันดับ 50 สายการบินที่มีสถานทางการเงินและการดำเนินงานเข้มแข็งที่สุดของโลกโดยนิตยสาร Airfinance Journal ในปี ค.ศ. 2018
ปัจจุบัน เวียตเจ็ทดำเนินการบิน 400 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งให้บริการแก่นักเดินทางมาแล้วกว่า 80 ล้านคน เปิดให้บริการ 129 เส้นทางในเวียดนามและทั่วภูมิภาค รวมถึงเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกัมพูชา
ติดตามข่าวสารล่าสุดของเวียตเจ็ทได้ทาง www.vietjetair.com