กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--เอไอเอส
เอไอเอส เปิดตัวเครือข่ายประหยัดพลังงานภายใต้แนวคิด “Green Network” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน คัดเลือกวิธีการหลากหลายเข้ามาผสมผสานในการทำงานด้านเครือข่าย พร้อมอาสารับหน้าที่ขยายเครือข่ายในโครงการหลวงทั้ง 38 แห่งทั่วภาคเหนือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
นายวิเชียร เมฆตระการ, กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “การพัฒนาเครือข่ายของเอไอเอสนั้น นอกเหนือจากเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งขยายความครอบคลุม, เพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งาน, พัฒนาคุณภาพการใช้งาน รวมไปถึงสรรหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างไร้ข้อจำกัดในทุกพื้นที่แล้ว เรายังมองถึงการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย ดังนั้นจากนี้ต่อไปในกระบวนการทำงานทั้งองค์กรของเอไอเอสจะคำนึงถึงการผสมผสานแนวคิดรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานพัฒนาเครือข่าย”
“เพราะสิ่งที่เป็นประโยชน์ในขณะเดียวกันก็อาจมีโทษด้วย เช่นเดียวกับเทคโนโลยีต่างๆที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน อาทิ พลังงานจากไฟฟ้า ที่ในกระบวนการผลิตอันอาจก่อให้เกิดมลภาวะ ดังนั้นแนวคิดของเอไอเอส จึงสนใจที่จะศึกษาการนำพลังงานสะอาดหรือพลังงานทดแทนจากธรรมชาติมาผสมผสานใช้งาน รวมถึงการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าเกินความจำเป็น ซึ่งในภาพรวมล้วนมุ่งไปสู่การรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนนั่นเอง”
ด้านนายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร, รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานปฏิบัติการเครือข่าย กล่าวว่า “ในขั้นตอนการทำงานของทีมวิศวกรนั้นเราจะเลือกสรรแประหยัดพลังงานเพื่อประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมและยังคงให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม โดยปัจจุบันแนวทางที่เราเริ่มนำมาใช้ในการพัฒนาเครือข่าย ประกอบด้วย
1. พลังงานจากแสงอาทิตย์ : โดยการใช้โซลาร์เซลล์ ด้วยหลักการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์สื่อสารที่ติดตั้งภายในสถานีฐาน โดยปัจจุบันเราได้เริ่มนำแนวทางดังกล่าวมาใช้งานแล้วกว่า 11 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มอีก 4 แห่งในปีนี้
2. พลังงานจากแรงลม : โดยติดตั้งกังหันลมแบบติดตั้งแนวนอน เพื่อผลิตไฟฟ้าที่เชื่อมเข้ากับระบบไฟฟ้าหลักจากการไฟฟ้านครหลวง ปัจจุบันเริ่มดำเนินการแล้วในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
3. พลังงานจากน้ำมันไบโอดีเซล : โดยริเริ่มนำน้ำมันไบโอดีเซลมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ที่ติดตั้ง ณ สถานีฐาน
4. ชุมสายพลังงานต่ำ : โดยติดตั้งผนังประหยัดพลังงาน (Insulated Wall) เพื่อให้สามารถรักษาอุณหภูมิในชุมสายได้นานกว่าเดิม โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ๆอีกต่อไป รวมถึงเปลี่ยนจากการใช้เครื่องปรับอากาศเป็นพัดลมคุณภาพสูงในบางพื้นที่ ซึ่งสามารถใช้ระบายความร้อนและรักษาการทำงานของอุปกรณ์เครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามวิธีการดังกล่าวมาข้างต้นนั้น จะมีการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม สอดคล้อง กับภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป ดังเช่น โครงการหลวงขุนแปะ อ.จอมทอง นั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ในกลุ่มเทือกเขาสูง ดังนั้นเอไอเอส จึงเลือกนำเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์เข้ามาใช้ในการติดตั้งสถานีฐาน ประกอบกับยังไม่มีกระแสไฟฟ้าเข้าถึง ทำให้ตลอดเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา เครือข่ายแห่งนี้สามารถสนองตอบความต้องการของประชาชน และสมาชิกโครงการได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้เอไอเอสได้รับความไว้วางใจจากมูลนิธิโครงการหลวง ให้เข้าไปดำเนินงานขยายเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่โครงการหลวงทั้ง 38 โครงการทั่วภาคเหนือ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นเส้นทางคดเคี้ยวบนเทือกเขาสูง ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมากกับเกษตรกรชาวเขาและบุคลากรของโครงการเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างสะดวกสบาย ส่งผลทำให้การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ปัจจุบันเอไอเอสมีสถานีฐานอยู่ในโครงการหลวงแล้ว 35 แห่ง (อีก 3 แห่งอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ)
โดยนายวิเชียร กล่าวในตอนท้ายว่า “ การร่วมรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนนั้นถือเป็นหน้าที่ของทุกคนบนโลก เช่นกับพวกเราชาวเอไอเอส ที่ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง และต่อเนื่องเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้ลูกหลานของเราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและยั่งยืนตลอดไป”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส
วราลี โทร. 0818112412, 022995063 waraleej@ais.co.th