กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--หอการค้าไทย
หอการค้าไทย จับมือ EXIM BANK ส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย มอบสิทธิประโยชน์พิเศษ 2 ต่อ หวังช่วยผ่อนคลายภาระต้นทุน และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน ปัญหา Brexit รวมทั้ง ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการไทย ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะภาคเอกชนที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยงทางการค้า การบริการ และการลงทุน อีกทั้ง ยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการไทย หอการค้าไทยจึงได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ลงนามในบันทึกข้อตกลง "ความร่วมมือในการส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย" เพื่อร่วมมือกันพัฒนาและอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนในต่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทย รวมทั้ง สนับสนุนการดำเนินงานและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการของไทย ในการดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ การลงทุนในต่างประเทศ และอำนวยความสะดวกในการให้บริการข้อมูลด้านการค้าและการลงทุน
นอกจากนี้ ยังดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการขยายช่องทางการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้ง อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการทางการเงินด้านต่าง ๆ อาทิ บริการสินเชื่อ บริการประกันการส่งออก และบริการการลงทุนต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและช่วยลดความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนในต่างประเทศ
"การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขยายตัว 4.3% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 21,205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าส่งออกในช่วงที่เหลือของปีจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และหวังว่าความร่วมมือกับ EXIM BANK ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน" นายสนั่น กล่าว
นายพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่ดำเนินการเพื่อการพัฒนา ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การลงทุนไทยในต่างประเทศ และการพัฒนาประเทศ พร้อมที่จะเป็นกลไกหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพ สนับสนุนและผลักดันผู้ประกอบการไทยในทุกระดับให้ประสบผลสำเร็จ สามารถก้าวสู่เวทีการค้าโลกได้อย่างมั่นใจ ด้วยการทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่าง และเป็นตัวกลางสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ (New Frontier) อาทิ แอฟริกา และอินเดีย
สำหรับความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับหอการค้าไทยนั้น ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศร่วมกับหอการค้าไทยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ FX Options การสนับสนุนสถาบัน AITI ของหอการค้าไทย การจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ รวมทั้ง โครงการ EXIM Mobile Clinic ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยสะดวก
นายพิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า EXIM BANK และหอการค้าไทย จะร่วมกันบูรณาการข้อมูลด้านการค้าและการลงทุน การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์หรือบริการ การจัดกิจกรรมทางวิชาการ หรือการจับคู่ธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพและองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการ เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนในต่างประเทศ ตลอดจนการสนับสนุนทางการเงิน ซึ่ง EXIM BANK ได้เสนอสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่สมาชิกของหอการค้าถึง 2 ต่อ ต่อแรก จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.5% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยปกติที่ลูกค้าได้รับสำหรับสินเชื่อเพื่อการส่งออกและนำเข้า และสินเชื่อเพื่อการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และต่อที่สอง ได้มอบส่วนลดพิเศษ 50% ของค่าเบี้ยประกัน SMEs Easy ที่คุ้มครองกว่า 85% ของความเสียหายที่เกิดจากความเสี่ยง ผู้ซื้อล้มละลาย ผู้ซื้อปฏิเสธการชำระค่าสินค้า การควบคุมการโอนเงินจากประเทศผู้ซื้อ และความเสี่ยงทางการเมืองที่กระทบต่อธุรกิจโดยตรง เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงทางด้านการค้าระหว่างประเทศ อันจะนำมาซึ่งการขยายการค้าการลงทุนของไทยให้มากยิ่งขึ้น
"การลงนามในบันทึกข้อตกลงในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยทุกระดับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิทธิประโยชน์พิเศษนี้ จะช่วยผ่อนคลายภาระต้นทุน และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน" นายพิศิษฐ์ กล่าว