กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงานส่งเสริม"โรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์"ส่งเสริมการใช้พังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์แบบครบวงจรเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและแปรรูปให้กับภาคการเกษตร
นายประสพโชค วรรณขาว นักวิชาการพลังงานชำนาญการ ผู้แทนสำนักงานพลังงานจังหวัดร้อยเอ็ด ได้นำคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงานและสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตและแปรรูปการเกษตรแบบครบวงจร โดยสนับสนุน "โรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์" ที่ช่วยลดต้นทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลทางการเกษตร
ที่ผ่านมาการเพิ่มมูลค่าจากการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรยังไม่มีความหลากหลายเพียงพอ และปัจจัยการผลิตของภาคเกษตรยังมีต้นทุนสูง จึงมีความจำเป็นในการยกระดับความสามารถและสนับสนุนการผลิตของชุมชน โดยเฉพาะการนำพลังงานทดแทนจากธรรมชาติอย่างแสงอาทิตย์มาใช้ สร้างทางเลือกในกระบวนการผลิต ช่วยกระตุ้นให้มีการเพิ่มมูลค่าในสินค้าเกษตรอย่างครบวงจร ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน จ.ร้อยเอ็ดมีโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์อยู่รวม 26 ระบบ ดำเนินการโดยกลุ่มเกษตรกร/กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ครอบคลุมเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายมากกว่า 1,600 คน ใช้สำหรับอบผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาทิ ข้าวกล้องงอก พริก เห็ด ตะไคร้ ชาใบข้าว อบเส้นฝ้าย ปลาแดดเดียว เป็นต้น โดยได้รับงบประมาณในการสนับสนุนเมื่อรวมกับระบบสูบน้ำมันพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 2 ระบบแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 4.1 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน สามารถลดระยะเวลาและการใช้พลังงานเพื่อการอบแห้งผลิตภัณฑ์การเกษตรต่างๆ ได้มากกว่า 30% และยังทำให้สัดสวนและปริมาณการใช้พลังงานทดแทนของชุมชน และของจังหวัดเพิ่มขึ้น
นายเจริญ สุทธิประภา นายกเทศมนตรี ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า โรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ของกระทรวงพลังงานนี้ได้นำมาดำเนินการให้กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ต.ท่าม่วงเพื่อใช้ในการอบพืชผลด้านเกษตรที่เป็นสมุนไพร ซึ่งถูกต่อยอดไปยังการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ลูกประคบ เครื่องหอมต่างๆ โดยกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างงานสร้างรายได้เสริมจากอาชีพการเกษตรแล้ว ในมิติด้านสังคมยังมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชนบทให้ดียิ่งขึ้น เป็นการเชื่อมโยงการพัฒนาไปอย่างยั่งยืนพร้อมกันทั้งชุมชน