กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี" แสดงมุมมองล่าสุดต่อศักยภาพที่ดินย่าน 'เพชรเกษม' ว่า ในปี 2562 รัฐบาลได้เร่งสานต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการด้านคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก-น้ำ-อากาศ โดยกำหนดแผนลงทุน 41 เมกะโปรเจกต์ ภายใต้วงเงิน 1.78 ล้านล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งนโยบายดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบวกที่พร้อมจะกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจจะปรับเปลี่ยนอย่างไร 'ที่อยู่อาศัย' ก็ยังเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของความต้องการพื้นฐาน
"ถนนเพชรเกษม ยังเป็นทำเลทองของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ขยายเส้นทางจากพื้นที่ในเขตเมืองออกสู่รอบนอกของเมือง ได้เพิ่มศักยภาพให้กับหลายๆ ทำเลให้กลายเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจ หนึ่งในทำเลที่ถูกจับตามอง คือ ถนนเพชรเกษม หรือ ทางหลวงหมายเลข4 ซึ่งถูกมองว่าเป็นทำเลแห่งอนาคตที่จะรองรับการขยายตัวของกรุงเทพมหานคร ทั้งยังเป็นถนนสายสำคัญของฝั่งธนบุรี และเป็นเส้นทางหลักสำหรับเชื่อมต่อไปยังภาคตะวันตกและภาคใต้ของไทย นอกจากนี้ ยังมีถนนโครงข่ายที่มุ่งสู่พื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนราชพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑลสายต่างๆ ที่เชื่อมถึงถนนบรมราชชนนี ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ทั้งยังมีถนนอีกหลายสายทั้งถนนหลัก-รอง ที่อยู่ในแผนการก่อสร้างในอนาคต อาทิ ถนนเพชรเกษม-วงแหวนด้านใต้ ถนนเพชรเกษม(ซอย45/1)-กัลปพฤกษ์ ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยเปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่ๆ และทำให้การเดินทางโดยรถยนต์มีความสะดวดรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และหากมองแผนการพัฒนาการเดินทางระบบราง การเปิดให้บริการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคลหรือสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-ท่าพระ ที่จะเปิดให้บริการในปี 2563 จะทำให้เกิดโครงข่ายรถไฟฟ้าที่สมบูรณ์ขึ้น ส่งผลให้ทำเลถนนเพชรเกษมซึ่งเป็นทำเลในฝั่งธนบุรีที่อยู่ใกล้เมืองสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจใจกลางเมือง (CBD) ได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยรถไฟฟ้า" นายชูรัชฏ์ ชาครกุล อธิบายถึงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม ที่พร้อมติดปีกให้ 'เพชรเกษม' เป็นทำเลทองแห่งอนาคต
นอกจากนี้ ในมิติของการพัฒนาเมือง ถนนเพชรเกษม ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต โดยจะมีการเพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อให้เกิดการค้าและการบริการให้กระจายตัวอยู่ในเขตชั้นกลางและเขตชั้นนอกของกรุงเทพฯเพื่อให้ประชาชน
สามารถใช้บริการโดยไม่ต้องเข้ามาในเขตชั้นใน นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้เกิดแหล่งงาน อาคารสำนักงานต่างๆ บริเวณศูนย์ชุมชน เพื่อให้เกิด jobs-housing balance ด้วยเช่นกัน
"ปัจจัยด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้งรถไฟฟ้าและถนน รวมถึงแผนการพัฒนาเมืองในอนาคต ได้ส่งผลให้ทำเลเพชรเกษม เป็นทำเลที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากการเปิดโครงการใหม่ๆ ทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในระดับที่ดี และยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ได้เริ่มให้บริการแล้ว จะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายประชากรเข้ามายังพื้นที่มากขึ้นแน่นอน ดังจะเห็นได้จากการที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค ได้เริ่มเปิดทดลองใช้ ตลาดที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าสายนี้เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร โดยเฉพาะการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอสังหาริมทรัพย์ย่านเพชรเกษม
อย่างไรก็ตาม การที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็นเส้นทางที่วิ่งจากเขตเมืองชั้นในออกสู่เมืองชั้นนอกตามแนวถนนเพชรเกษม ซึ่งยังมีที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบอยู่อีกมากจึงเป็นทางเลือกสำหรับการอยู่อาศัยที่น่าสนใจ และบนถนนเพชรเกษมยังมีที่ดินที่ยังสามารถพัฒนาโครงการทาวน์โฮมที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าในราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท สำหรับทำเลซึ่งเป็นที่นิยมในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น ซอยเพชรเกษม 81 ถือเป็นทำเลที่มีโครงการบ้านแนวราบเปิดขายคึกคักที่สุดในปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่า ถนนเพชรเกษม ได้กลายเป็นทำเลอยู่อาศัยที่มีทั้งคอนโดมิเนียมและที่อยู่อาศัยแนวราบให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนโสดที่นิยมเลือกอยู่คอนโดมิเนียม และกลุ่มคนเริ่มต้นมีครอบครัวที่มีทาวน์โฮมเป็นทางเลือก โดยสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองชั้นในได้สะดวกรวดเร็วจากโครงข่ายคมนาคมทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า และในอนาคต เพชรเกษม จะเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางความเจริญตามแผนการพัฒนาเมืองของกรุงเทพมหานคร จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพที่ดีพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยใกล้ๆ เมือง
"สำหรับ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในย่านเพชรเกษมมาแล้วหลายโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการภายหลังจากเปิดตัวได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย โดยโครงการที่สามารถปิดการขายไปแล้ว 4 โครงการด้วยกัน ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องเปิดโครงการใหม่เพื่อรองรับความต้องการที่มีอย่างต่อเนื่องโดยมีโครงการ 'ไลโอ บลิสซ์ เพชรเกษม-ยอแซฟ โครงการ 2' นวัตกรรมบ้านประหยัดพลังงาน กับฟังก์ชั่นทาวน์โฮมหน้า "กว้าง" ที่ปรับเปลี่ยนได้ พักผ่อนไปกับพื้นที่สีเขียวด้วยสวนสวยสไตล์อังกฤษในราคา 1.89 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี โครงการมิกซ์ยูส ลลิลทาวน์ 'ไลโอ บลิสซ์ และ แลนด์ซีโอ คริป เพชรเกษม – พุทธมณฑลสาย 4' ซึ่งมีทั้งบ้าน และ ทาวน์โฮมที่มีความยืดหยุ่นด้านฟังก์ชั่น มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และมีดีไซน์ที่ทันสมัย สามารถปรับเปลี่ยนการตกแต่งห้องให้เหมาะกับการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัว โดยทาวน์โฮมราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท อีก
ทั้งยังมีบ้านเดี่ยว และ บ้านแนวคิดใหม่ที่ราคา 3-6 ล้านบาท ที่สำคัญยังเป็นนวัตกรรมบ้านประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์ด้วย "ความสมบูรณ์แบบ" ให้กับสมาชิกในครอบครัวอย่างลงตัว โดยมีการออกแบบพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น ลงตัวมากขึ้นด้วยแนวคิดการออกแบบสไตล์ "Luxury Green Design" เพิ่มความสดใสด้วยต้นไม้นานาพันธ์ ให้ความสุขเกิดขึ้นใหม่ในทุกๆวัน และล่าสุดกับโครงการที่เปิดตัวในไตรมาส 3 ปีนี้ กับทาวน์โฮม 'ไลโอ บลิสซ์ เพชรเกษม 81 โครงการ 2' ทาวน์โฮมดีไซน์ทันสมัย เน้นรูปแบบ Smart Living ผสมผสานนวัตกรรมและที่อยู่อาศัย ตอบรับทุกความต้องการของชีวิตคนเมือง และ Flexible Design ขยายพื้นที่ความสุขให้ "กว้าง" ยิ่งขึ้น บนพื้นที่ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ Master Bedroom ขนาดใหญ่ในราคา 2 ล้านต้นๆ ถือเป็นการตอกย้ำว่านี่คือทำเลยอดนิยมสูงสุดในย่านนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆ นำเสนอสู่ตลาดในย่านดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง" นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวสรุป