กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านดิจิ-ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเซ็นทรัล บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและนวัตกรรมระดับโลกจาก เจดี ดิจิตส์ (JD Digits) และ เจดี ดอทคอม (JD.com) ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจากประเทศจีน เปิดตัว ดอลฟิน แพลตฟอร์มอัจฉริยะ (Dolfin Intelligent Platform) อย่างเป็นทางการ โดยการนำเสนอแอปพลิเคชั่น ดอลฟิน เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการทางการเงินและดิจิทัลไลฟ์สไตล์ครบครัน มุ่งนำเสนอสิทธิประโยชน์เหนือระดับให้แก่ผู้ใช้บริการ ตั้งแต่ระดับบุคคล ร้านค้า และภาคธุรกิจ พร้อมสนองตอบนโยบายภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัลและสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ โดยนำเอาเทคโนโลยีสุดล้ำและนวัตกรรมความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกมาประยุกต์ใช้ สู่การพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ที่มอบโซลูชั่นทางการเงินอันไร้ขีดจำกัดบนช่องทางดิจิทัล เพื่อให้สังคมไทยได้สัมผัสกับดิจิ-ไลฟ์สไตล์ทางการเงิน ที่สะดวกสบาย ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ภายใต้แนวคิดหลักของแบรนด์ดอลฟิน "คิดให้ ใช้ฟิน" ซึ่งครอบคลุม 5 บริการหลัก อันได้แก่
Smart Transactional Platform – ระบบการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลสำหรับร้านค้า และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ช่วยเพิ่มค่าและสิทธิประโยชน์สำหรับทุกการใช้จ่าย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการบริหารเงินสดแก่ร้านค้าDigital Lending Platform – บริการสินเชื่อทางเลือกใหม่บนช่องทางดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อ ได้ทุกที่ ทุกเวลา แบบออนดีมานด์ พร้อมดอกเบี้ยที่คำนวณให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะราย§ Digital Insurance Platform – บริการประกันออนไลน์ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างมิติใหม่ในการซื้อประกันโดยระบบช่วยคิดและแนะนำรูปแบบที่คุ้มค่าตรงความต้องการ เข้าถึงง่ายและรวดเร็ว
- Digital Wealth Management Platform – บริการบริหารสินทรัพย์และการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับคนไทยผ่านเทคโนโลยี AI และ Robo Advisor ที่ล้ำสมัย
- Digital Marketing Platform – บริการทำการตลาดเฉพาะกลุ่มลูกค้าของร้านค้า โดยวิเคราะห์ข้อมูลและทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ด้วย Big Data
โดยดอลฟิน แพลตฟอร์มอัจฉริยะ เปิดตัวบริการ Smart Transactional Platform เป็นบริการแรกเพื่อรองรับความต้องการชำระเงินบนช่องทางดิจิทัลแบบไร้ขีดจำกัดสำหรับผู้บริโภคและร้านค้า พร้อมสร้างความเข้าใจพฤติกรรมและความชื่นชอบของผู้ใช้ เพื่อพัฒนาต่อยอดฟังก์ชั่นการใช้งานดอลฟิน แพลตฟอร์มอัจฉริยะในอีก 4 แพลตฟอร์มที่จะมาช่วยเพิ่มความสะดวก ปลอดภัยและโปร่งใส ตอบโจทย์ดิจิ-ไลฟ์สไตล์ทางการเงินของคนไทยในอนาคตอันใกล้นี้
นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง กล่าวว่า "ด้วย เทรนด์ตลาดและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่พัฒนาสู่ยุค Digital Disruption อย่างแท้จริง ความต้องการเข้าถึงบริการทางการเงินบนช่องทางดิจิทัลพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งยังมีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง มองเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ดอลฟิน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและมอบโซลูชั่นทางการเงินบนช่องทางดิจิทัลอย่างครบถ้วนทุกมิติ ครอบคลุม 5 บริการ ได้แก่ การชำระเงิน สินเชื่อส่วนบุคคล ประกันภัย การบริหารจัดการสินทรัพย์และการลงทุน และการทำการตลาดเฉพาะกลุ่มบนช่องทางออนไลน์ สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทฟินเทคแนวหน้าของประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยีระดับโลกมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์สู่ความเป็นเลิศทางการบริหารจัดการทางด้านการเงินส่วนบุคคลทุกมิติ อีกทั้งยังมุ่งเน้นการสร้าง Digi-Financial Ecosystem ร่วมกับพันธมิตรภาคธุกิจทั้งในและนอกเครือเซ็นทรัล ธนาคาร สถาบันการเงิน และภาครัฐ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินดิจิทัลสำหรับคนไทยทุกระดับ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์คนไทยสู่ชีวิตยุคดิจิทัลและสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบในอนาคต
โดยบริการแรกที่เปิดตัวบนแอปพลิเคชัน ดอลฟิน คือบริการที่มุ่งเน้นการให้บริการชำระเงินบนช่องทางดิจิทัล (กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์) โดยเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำระบบ E-KYC (Electronic Know-Your-Customer) มาใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อสมัครใช้บริการ โดยผสานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (facial recognition) และการอ่านตัวอักษรจากภาพถ่าย (optical character recognition) ที่มอบความปลอดภัยสูงสุด แอปพลิเคชั่น ดอลฟิน ยังโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นการทำงานที่แตกต่างโดยเป็นระบบ open-loop รายแรกของประเทศไทย ที่รองรับการชำระเงินและเติมเงินอย่างครบครันทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเติมเงินด้วยเงินสด หรือการเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต บัตรเครดิต รวมถึงการรับชำระที่จุดพร้อมเพย์ และดอลฟิน ยังเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินแต่ละครั้งด้วยเทคโนโลยี Dynamic QR Code ที่ถูกสร้างขึ้นเฉพาะสำหรับแต่ละยอดการใช้จ่าย พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์จากการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมภาคธุรกิจ ลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสด เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน และยังเสริมสร้างความเข้าใจกลุ่มลูกค้าให้แก่ผู้ประกอบการ จากการเรียนรู้ จดจำและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ ด้วยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ Big Data Analytics เติมเต็มไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของคนไทย ด้วยการสร้างประสบการณ์ชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่เปลี่ยนทุกการใช้จ่ายให้เป็นเรื่องสนุก เพลิดเพลินได้ทุกที่ทุกเวลา ตามแนวคิดหลักของแบรนด์ 'คิดให้ ใช้ฟิน'"
แอปพลิเคชั่น ดอลฟิน ปฏิวัติวงการด้วยการนำระบบ E-KYC (Electronic Know-Your-Customer) ตามกรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยมาใช้ในการยืนยันตัวตนสำหรับการสมัครใช้บริการ โดยเสริมความมั่นใจในความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) และการอ่านตัวอักษรจากภาพถ่าย (Optical Character Recognition) ที่มีความแม่นยำสูง ถูกพัฒนาสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ช่วยลดขั้นตอนลงทะเบียนเปิดบริการให้สะดวก รวดเร็ว เพียงถ่ายเซลฟี่และสแกนบัตรประชาชนให้ระบบทำการยืนยันตัวตนว่าบัตรประชาชนที่นำมาสมัครบริการกับผู้สมัครนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันจริงเพื่อระบบความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้บริการ ก่อนจะขยายสู่ฟังก์ชั่นการชำระเงินด้วยใบหน้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
แอปพลิเคชั่น ดอลฟิน ให้บริการชำระเงินในรูปแบบ open-loop ซึ่งเป็นรายแรกของประเทศ จึงรองรับการชำระเงินและเติมเงินแบบครบครันทุกช่องทาง โดยสามารถเติมเงินสดเข้าสู่บัญชีดอลฟิน ผ่านเคาน์เตอร์ CenPay กว่า 1,900 สาขาทั่วประเทศ หรือเลือกที่จะเติมเงินผ่านแอป mobile banking หรือตัดจ่ายตรงโดยการเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต และบัตรเครดิต ทั้งนี้ ดอลฟิน ได้มีการจับมือกับพันธมิตรทั้ง Visa และ Mastercard เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ทั้งในเรื่องของการผูกบัตรเครดิตและเดบิตในการใช้งานแอปพลิเคชั่น และมีแผนพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกันเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยและผลประโยชน์ที่ตรงตามความต้องการที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่นอีกด้วย
นอกจากนี้แอปพลิเคชั่น ดอลฟิน รองรับจุดรับชำระเงินดิจิทัลที่หลากหลาย ทั้งร้านค้าพันธมิตรใน Ecosystem เครือเซ็นทรัล อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต แฟมิลี่มาร์ท บีทูเอส (B2S) มูจิ (Muji) มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ (Mark & Spencer) มัทสึโมโตะ คิโยชิ (matsumoto kiyoshi) เซกาเฟรโด (Segafredo) ออฟฟิศเมท (Officemate) ซุปเปอร์สปอร์ต (Supersports) Watts by Komonoya ร้านอาหารชั้นนำในเครือ CRG อาทิเช่น Mister Donut, Auntie Anne's, Pepper Lunch, Ootoya, Yoshinoya, Tenya, Katsuya, Chabuton, Cold Stone, Thai Terrace, อร่อยดี และ สุกี้เฮาส์ และโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กว่า 2,700 จุดรับชำระ และครอบคลุมจุดบริการพร้อมเพย์ของทุกธนาคารกว่า 4.5 ล้านจุด และพร้อมรองรับร้านค้าที่รับ MyPromptQR (B Scan C) รวมถึงร้านค้าในเครือข่ายของธนาคารพันธมิตรอย่างธนาคารกรุงเทพและกสิกรไทย ซึ่งดอลฟิน มีแผนในการขยายร้านค้าพันธมิตรทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงร้านค้าบนช่องทางออนไลน์ และยังสามารถใช้ดอลฟินในการชำระเงินสินค้าต่างๆ บนแอปพลิเคชั่น JD Central เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายแบบไร้ขีดจำกัด
ดอลฟิน เน้นเพิ่มค่าสำหรับทุกการใช้จ่ายเพิ่มความฟินให้ผู้ใช้ ด้วยการคัดสรรสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ความชื่นชอบและการใช้งานจริงของผู้ใช้ นำเสนอสิทธิพิเศษ ส่วนลดและโปรโมชั่นต่างๆ จากร้านค้าพันธมิตร ตอบโจทย์ความต้องการทุกจังหวะของชีวิต และแอปพลิเคชั่น ดอลฟิน เป็นวอลเล็ทเดียวที่ให้ผู้ใช้งานสะสมคะแนน The 1 ได้ไวขึ้นกับทุกการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่น ดังนั้นสมาชิก The1 จะได้รับคะแนนสะสม The1 2 ต่อ โดยต่อที่ 1 ได้รับจากร้านค้าที่ร่วมโครงการ The1 และต่อที่ 2 ได้คะแนน The1 พิเศษจากแอปพลิเคชั่น ดอลฟิน
โดยในเดือนกันยายน 2562 นี้ แอปพลิเคชั่น ดอลฟิน เตรียมโปรโมชั่นดีๆ ไว้ต้อนรับลูกค้าใหม่ที่ดาวน์โหลดและสมัครใช้งานแอปพลิเคชั่นกับ "โปรเฮ เปย์ฟิน" ที่ยกขบวนส่วนลดสุดฟินกว่า 450 บาทจากหลากหลายร้านค้าที่ร่วมรายการในเครือเซ็นทรัลและเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถคลิกดูได้ที่ https://dolfinthailand.com/ แอปพลิเคชั่น ดอลฟิน พร้อมให้ดาวน์โหลดใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ทั้งระบบแอนดรอยด์และ iOS ที่ Google Play และ App Store
เกี่ยวกับ เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง
บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง เกิดจากความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกและดิจิ-ไลฟ์สไตล์ของประเทศไทย และเจดี ดอทคอม (JD.com) บริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนและใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก และเจดี ดิจิทส์ (JD Digits) ผู้นำด้านเทคโนโลยีฟินเทคระดับโลกของประเทศจีน ภายใต้มูลค่าการร่วมทุนกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อตั้งบริษัทพัฒนาบริการด้านแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้านการเงิน (Financial Intelligent Platform) และบริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและฟินเทคของประเทศไทย โดยแบ่งการบริหารงานออกเป็น 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล เจดี มันนี่ จำกัด ที่ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) และธุรกิจการชำระเงินบนช่องทางดิจิทัล (E-Payment) และ บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค จำกัด ซึ่งให้บริการสินเชื่อ บริการประกันภัย และบริการบริหารสินทรัพย์เพื่อความมั่งคั่งผ่านช่องทางดิจิทัล พร้อมบริการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มอัจฉริยะ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบ