กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--วิเคราะห์ข่าว กองประชาสัมพันธ์
นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม.กล่าวกรณีชาวบ้านในซอยสุขุมวิท 101 และ 103 (ซอยอุดมสุข) ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างอาคารชุด 9 อาคารพร้อมอาคารจอดรถและร้านค้า ซึ่งสร้างความเดือดร้อน ทั้งการก่อสร้างในเวลากลางคืน ก่อปัญหาฝุ่นละออง ปัญหาเสียงดังและความสั่นสะเทือน บ้านเรือนแตกร้าว ปัญหาวัสดุน้ำปูนและแท่งเหล็กตกใส่บ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียงว่า ในการอนุญาตก่อสร้างอาคาร การตรวจสอบ และควบคุมการดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าว สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานสำนักการโยธาและสำนักงานเขตให้เข้มงวดในการกำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างเคร่งครัด พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานติดตามตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมฝุ่นละอองและเสียงในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กรุงเทพฯ หากปฏิบัติไม่ครบถ้วนหรือไม่มีประสิทธิภาพจะแจ้งให้ปรับปรุงแก้ไขและรายงานผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับควบคุมให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด
นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองผู้อำนวยการสำนักการโยธารักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า สำนักการโยธาได้ตรวจสอบโครงการ เอลิโอ เดล เนสท์ สุขุมวิท 103 ของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อุดมสุข ทู จำกัด ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 103 แขวงบางนา เขตบางนา พบเป็นการก่อสร้างตามมาตรา 39 ทวิ และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชนกรุงเทพมหานคร (คชก.กทม.) ในการจัดทำรายงาน EIA ของโครงการ และการก่อสร้างอาคารเป็นไปตามใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคาร ทั้งนี้จากการตรวจสอบมาตรการป้องกันอันตรายต่าง ๆ โครงการฯได้ดำเนินการครบถ้วนตามมาตรการที่กำหนด นอกจากนั้นสำนักการโยธาได้ประชุมร่วมกันระหว่างผู้ร้องเรียน สำนักงานเขตบางนา และโครงการฯ รวม 8 ครั้ง โดยโครงการฯได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามที่ตกลงกันไว้ไปแล้วบางส่วนขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและทำข้อตกลงระหว่างโครงการฯ
นายณัฐสันต์ จันทเตมีย์ ผู้อำนวยการเขตบางนา กทม. กล่าวว่าสำนักงานเขตบางนาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของโครงการฯรวมทั้งเร่งรัดให้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งปัจจุบันโครงการได้ชดเชยหรือตกลงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วประมาณ 70 หลังคาเรือน เหลืออีก 30 หลังคาเรือนที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งสำนักงานเขตบางนาได้จัดการประชุมติดตามและแก้ไขผลกระทบจากการก่อสร้าง ระหว่างเจ้าของโครงการและผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง เสียง การสั่นสะเทือนและระยะเวลาการก่อสร้างรวมทั้งความรับผิดชอบต่อความเสียหายของบ้านเรือนของผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ ให้ได้ข้อยุติ อีกทั้งโครงการฯได้ส่งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระดับเสียง และความสั่นสะเทือน โดยบริษัทที่ปรึกษาเป็นผู้ตรวจสอบและติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระดับเสียงและความสั่นสะเทือนอยู่ในเกณฑ์ไม่เกินค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรม
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติและประกาศของกรมควบคุมมลพิษ