น้ำมันโลกทำสถิติสูงสุด 10 วัน 10 เหรียญฯ ทะลุกว่า 112 เหรียญฯ ขายปลีกในประเทศทุกชนิดต้องปรับขึ้น 40 สตางค์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 20, 2008 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--ปตท.
ทยอยปรับขึ้น หลังรับภาระขาดทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้บริโภค วอนผู้บริโภคช่วยประหยัดอย่างจริงจัง ยันปรับราคาตามความเหมาะสม ไม่มีการแทรกแซง เป็นการค้าเสรี ทุกค่ายมีสิทธิปรับขึ้นราคาได้เอง แม้ปรับขึ้นแล้วยังต้องรับภาระขาดทุนต่อวันละ 20 ล้านบาท
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันยังเป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อทั่วทุกภูมิภาคของโลก ล่าสุดในช่วง 10 วันที่ผ่านมาราคาปรับตัวรุนแรงมากขึ้นถึง 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่ง ปตท. ได้พยายามทำหน้าที่ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติอย่างดีที่สุด โดยไม่ได้ปรับราคาน้ำมันขายปลีกตามต้นทุนที่สูงขึ้นและรับภาระขาดทุนดังกล่าวแทนผู้บริโภคกว่า 300 ล้านบาท (ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา) และพยายามรักษาระดับราคาเดิมให้นานที่สุดเท่าที่จะรับภาระแทนผู้บริโภคได้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ ปตท. ถือปฏิบัติมาโดยตลอด ล่าสุดราคาน้ำมันพุ่งทะยานสูงมากโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลนั้นถือเป็นระดับสูงสุดทำลายสถิติเดิม โดยขึ้นมาถึง 112.80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 10.13 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล), น้ำมันเบนซิน 95 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 106.31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 6.39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ส่วนน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90.90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 5.08 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ปัจจัยหลักมาจากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นทั้งในจีนและสหรัฐฯ และอิหร่านซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโอเปค ยังได้เสนอให้ลดกำลังการผลิตลง และอากาศทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ จะหนาวเย็นลงอีก นอกจากนี้โรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคอื่นๆ อาทิ ประเทศไนจีเรีย, ไต้หวัน และ ออสเตรเลีย ได้หยุดดำเนินการชั่วคราว จึงทำให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันสำรองว่าอาจมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของผู้บริโภค ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ดังกล่าว ปตท. จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิด 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (21 ก.พ. 51) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 20 พลัส 27.19 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 6 บาท ม.ค.-มี.ค.51)
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 29.19 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 4 บาท)
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 28.39 (ถูกกว่าเบนซิน 91 ถึง 3.50 บาท)
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 33.19
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 32.09
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที บี5 พลัส 29.04 (ถูกกว่าดีเซล 0.50 บาท)
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 29.54
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า จากต้นทุนที่สูงขึ้นต่อเนื่องดังกล่าว แม้ว่าจะปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในครั้งนี้แล้ว แต่ค่าการตลาดยังคงติดลบอยู่ กล่าวคือ ทุกลิตรที่ขาย ปตท. ต้องรับภาระแทนผู้บริโภคลิตรละ 1 บาท หรือขาดทุนต่อวันละ 20 ล้านบาท ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดการใช้พลังงานอย่างจริงจัง และหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนสื่อสารธุรกิจน้ำมัน ผ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรศัพท์ 0-2537-2571

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ