กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
ปลัดกระทรวงแรงงาน สั่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง บริษัท ไวต้าฟู้ด แฟคทอรี่ (1989) จำกัด เหตุนายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างอย่างใกล้ชิด พร้อมเผย เคยดำเนินคดีนายจ้างรายนี้แล้ว ย้ำ นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างลูกจ้างมีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน มีโทษทั้งจำและปรับ
นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง บริษัท ไวต้าฟู้ด แฟคทอรี่ (1989) จำกัด จังหวัดกาญจนบุรี กรณีนายจ้างค้างจ่ายค่าจ้าง ว่า ที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวเคยมีการค้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างมาแล้ว ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ดำเนินการช่วยเหลือลูกจ้างโดยได้มีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่ายให้กับลูกจ้าง รวมทั้งได้มีการดำเนินคดีอาญากับนายจ้างรายนี้ ฐานไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน โดยการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 2 แสนบาท สำหรับกรณีล่าสุด ที่ลูกจ้างของบริษัท ไวต้าฟู้ด และบริษัทในเครือ ได้มาร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยแจ้งว่านายจ้างได้มีการค้างจ่ายค่าจ้าง ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2562 ทั้งนี้ พนักงานตรวจแรงงานได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พบว่านายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างลูกจ้างจริงจึงได้มีคำสั่งตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2562 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างที่ค้าง พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ลูกจ้างภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง ซึ่งจากการติดตามผลพบว่านายจ้างยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีความผิดของนายจ้างที่ไม่ผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานในเรื่องของการจ่ายค่าจ้างจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจะมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวนี้ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานดำเนินการช่วยเหลือลูกจ้างอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ลูกจ้างทั้งแรงงานไทยและต่างด้าวได้รับการคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายโดยเร็ว