กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
บีโอไอ คว้า 2 รางวัลบริการภาครัฐ ระดับดีเด่น ประเภทการบูรณาการข้อมูลเพื่อการบริการ ด้วยระบบ Single Window for Visa and Work Permit และระดับดี ประเภทพัฒนาการบริการ ด้วยระบบ e-Tax ย้ำความมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการนักลงทุน ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอ ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 มอบรางวัลบริการภาครัฐ ประจำปี 2562 ระดับดีเด่น ประเภทบูรณาการข้อมูลเพื่อการบริการ ได้แก่ การให้บริการงานช่างฝีมือผู้ชำนาญการต่างประเทศ ด้วยระบบ Single Window for Visa and Work Permit และระดับดี ประเภทพัฒนาการบริการ ได้แก่ การยื่นแบบคำขอใช้สิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) จากจำนวนผู้สมัครในสาขาบริการภาครัฐ จำนวน 537 ผลงาน
"รางวัลดังกล่าว ถือเป็นความภาคภูมิใจของสำนักงาน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบีโอไอในการพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มีแนวทางการปรับปรุงบริการภาครัฐไปสู่ระบบดิจิทัล โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และสร้างความพึงพอใจแก่นักลงทุน" นางสาวดวงใจกล่าว
สำหรับการให้บริการงานช่างฝีมือผู้ชำนาญการต่างประเทศ ด้วยระบบ Single Window for Visa and Work Permit เป็นระบบอำนวยความสะดวกแก่บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ในการนำช่างฝีมือผู้ชำนาญการต่างประเทศเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมฯ โดยเป็นการทำงานร่วมกันของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ บีโอไอ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการจัดหางาน ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถยื่นคำร้องและเอกสารที่ใช้สำหรับทุกหน่วยงานเพียงครั้งเดียว (Single Entry) ข้อมูลที่นำเข้าสู่ระบบของ 3 หน่วยงาน จะเป็นชุดเดียวกันทั้งหมด จึงช่วยลดปัญหาข้อมูลไม่ตรงกัน ทั้งยังมีกรอบเวลาที่ชัดเจนในการให้บริการ
ด้านการพัฒนาระบบการขอใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) เดิมบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ จะต้องยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคล โดยการส่งแบบคำขอใช้สิทธิประโยชน์มายังสำนักงาน ซึ่งต้องเสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือต้องส่งแบบคำขอต่างๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax เข้ามาให้บริการ นอกจากจะช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสารแล้ว ยังสามารถติดตามสถานะคำขอไปยังผู้รับผิดชอบโดยตรง ทำให้ผู้ใช้บริการมีความสะดวกทั้งในด้านการส่งเอกสารและไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีบริษัทยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล กว่า 4,000 บริษัท ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนำระบบ e-Tax มาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2559 เป็นต้นมา พบว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้รับบริการในปี 2561 ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจในบริการดังกล่าวถึงร้อยละ 97.52
รางวัลดังกล่าว ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มอบให้แก่หน่วยงานของรัฐที่มีผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ ในการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐ