กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--การประปาส่วนภูมิภาค
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ โดยเน้นย้ำให้ปรับปรุงขยายระบบประปาสร้างความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนและรองรับพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบบริการตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล
ดร.นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยให้บูรณาการหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอุทกภัย รวมถึงการจัดทำข้อมูลเพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เป็นรูปธรรมเกิดผลดีแก่ประชาชน ภายใต้นโยบายหลักว่าด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่ง โดย กปภ. รับมอบนโยบายดำเนินการสร้างความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนและเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาหนองคาย อ.เมืองหนองคาย - สระใคร จ.หนองคาย ด้วยงบประมาณ 406 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดการใช้งานเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 เพื่อรองรับการลงทุนในเขตพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน คือ จังหวัดหนองคายและนครพนม อีกทั้ง ได้นำเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบบริการ PWA 4.0 Digital Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและจ่ายน้ำประปาและการให้ บริการประชาชนตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล นอกจากนี้ กปภ. ยังมีการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน โดยการนำเทคโนโลยีระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ในสถานีผลิตน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 จะติดตั้งเพิ่มเติมประมาณ 41 แห่ง ซึ่งจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 16%
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ภัยแล้งและน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทุก ๆ ปี กปภ. ได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ยังสามารถผลิตและส่งจ่ายน้ำได้ตามปกติอย่างต่อเนื่อง โดยให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่ง กปภ. มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนทั้งในสถานการณ์ภัยแล้งและน้ำท่วม โดยจัดรถบรรทุกน้ำให้บริการแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบำบัดทุกข์บำรุงสุขกับให้ประชาชน